186
รายงานประจำ
�ปี 2557
34. คดีฟ้องร้องและหนี้สินที่อาจเกิดขึ้น
34.1 คดีฟ้องร้อง
34.1.1 ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ในปี พ.ศ. 2555 กลุ่มกิจการเป็นโจทก์ฟ้องกลุ่มบริษัท
ประกันภัยเพื่อเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนจากเหตุการณ์
เพลิงไหม้อาคารสำ
�นักงานของตลาดหลักทรัพย์ฯ เมื่อปี พ.ศ.
2553 เป็นจำ
�นวนเงิน 123 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ
7.50 ต่อปี โดยวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2556 ศาลชั้นต้นได้
พิพากษายกฟ้องคดีนี้ และวันที่ 27 ธันวาคม พ.ศ. 2556 กลุ่ม
กิจการได้ยื่นอุทธรณ์คำ
�พิพากษาของศาลชั้นต้น ต่อมาเมื่อ
วันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557 ศาลอุทธรณ์ได้พิพากษาให้
ยกฟ้องคดีนี้ และ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 กลุ่มกิจการ
อยู่ระหว่างการยื่นฎีกาคำ
�พิพากษาศาลอุทธรณ์ เนื่องจากผล
ของคดียังมีความไม่แน่นอน กลุ่มกิจการจึงไม่ได้บันทึกรายได้
ดังกล่าวในงบการเงินสำ
�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ.
2557 และ พ.ศ. 2556
34.2 หนี้สินที่อาจเกิดขึ้น
34.2.1 ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 ตลาดหลักทรัพย์ฯ
มีภาระเกี่ยวกับหนังสือค้ำ
�ประกันกับธนาคารเป็นจำ
�นวนเงิน
รวม 4.61 ล้านบาท (พ.ศ. 2556 : 4.61 ล้านบาท) เพื่อค้ำ
�
ประกันการใช้ไฟฟ้าในการดำ
�เนินธุรกิจตามปกติ ซึ่งผู้บริหาร
คาดว่าจะไม่มีหนี้สินที่มีภาระสำ
�คัญเกิดขึ้น
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ออกหนังสือรับทราบภาระ
หนี้สิน (Letter of Comfort) กับธนาคารเกี่ยวกับวงเงินเบิก
เกินบัญชีที่ให้กับบริษัท สำ
�นักหักบัญชี (ประเทศไทย) จำ
�กัด
(“สำ
�นักหักบัญชี”) ซึ่งเป็นกิจการย่อยแห่งหนึ่ง ในวงเงิน
2,400 ล้านบาท (พ.ศ. 2556: 2,400 ล้านบาท) เพื่อรองรับงาน
ชำ
�ระราคาหลักทรัพย์ตราสารทุนและตราสารอนุพันธ์
โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ รับรองว่าจะดำ
�รงสัดส่วนการถือหุ้นใน
สำ
�นักหักบัญชีในอัตราร้อยละ 99.99 ของทุนจดทะเบียน
จนกระทั่งวันสิ้นสุดของระยะเวลาการให้สินเชื่อ นอกจากนี้
ตลาดหลักทรัพย์ฯ ยังต้องให้การสนับสนุนการดำ
�เนินงานของ
สำ
�นักหักบัญชีเพื่อให้สำ
�นักหักบัญชีมีความสามารถในการ
ชำ
�ระหนี้แก่ธนาคาร ทั้งนี้ ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557
สำ
�นักหักบัญชียังไม่มีการเบิกใช้วงเงินดังกล่าว
34.2.2 กิจการย่อย
34.2.2.1
วันที่ 26 มีนาคม พ.ศ. 2552 กิจการย่อยแห่ง
หนึ่งถูกฟ้องเป็นจ�
ำเลยร่วมกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นในคดี
ละเมิดเรียกทรัพย์สินคืนและค่าเสียหายที่เกี่ยวเนื่องกับการ
ปลอมแปลงใบหุ้นสามัญ โดยถูกเรียกร้องให้ร่วมกันชดเชยค่า
เสียหายเป็นจ�
ำนวนเงินรวม 223 ล้านบาท ทั้งนี้ เมื่อวันที่ 30
พฤศจิกายน พ.ศ. 2554 ศาลชั้นต้นได้พิจารณายกฟ้องจ�
ำเลย
ที่เป็นกิจการย่อย โดยโจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ค�
ำพิพากษาของศาล
ชั้นต้น ซึ่งกิจการย่อยได้ยื่นค�
ำแก้อุทธรณ์โจทก์ เมื่อวันที่ 30
พฤษภาคม พ.ศ. 2555
ต่อมาเมื่อวันที่ 29 เมษายน พ.ศ. 2557 ศาลอุทธรณ์
พิพากษาให้กิจการย่อย และบุคคลที่เกี่ยวข้องร่วมกันรับผิด
ต่อโจทก์ ซึ่งกิจการย่อยได้ยื่นฎีกาคำ
�พิพากษาศาลอุทธรณ์
เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2557 และได้ยื่นคำ
�แก้ฎีกาโจทก์
เมื่อวันที่ 30 กันยายน พ.ศ. 2557
ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 คดีอยู่ในระหว่างการ
พิจารณาของศาลฎีกา เนื่องจากผลของคดียังมีความไม่
แน่นอน กิจการย่อยจึงไม่ได้บันทึกค่าเสียหายดังกล่าวใน
งบการเงินสำ
�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 และ
พ.ศ. 2556 ทั้งนี้ บริษัทใหญ่ได้ทำ
�ประกันภัยคุ้มครองความรับ
ผิดของผู้ประกอบวิชาชีพ (Financial Institutional
Professional Indemnity Insurance) ซึ่งครอบคลุมถึง
ความรับผิดสำ
�หรับคดีดังกล่าว
34.2.2.2
วันที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2557 กิจการย่อยแห่งหนึ่ง
ถูกฟ้องเป็นจ�
ำเลยร่วมกับบุคคลและนิติบุคคลอื่นในคดีละเมิด
ที่เกี่ยวเนื่องจากการปฏิบัติหน้าที่ของผู้แนะน�
ำการลงทุน
ของบริษัทสมาชิกจนเป็นเหตุให้โจทก์ได้รับความเสียหาย
โดยถูกเรียกร้องให้ร่วมกันชดเชยค่าเสียหายเป็นจ�
ำนวนเงิน
รวม 0.96 ล้านบาท โดยวันที่ 12 พฤศจิกายน พ.ศ. 2557
ศาลชั้นต้นได้พิพากษายกฟ้องคดีนี้ และวันที่ 9 ธันวาคม พ.ศ.
2557 โจทก์ได้ยื่นอุทธรณ์ค�
ำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ณ วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557 กิจการย่อยอยู่ระหว่าง
การยื่นคำ
�แก้อุทธรณ์โจทก์ เนื่องจากผลของคดียังมีความไม่
แน่นอน กิจการย่อยจึงไม่ได้บันทึกค่าเสียหายดังกล่าว
ในงบการเงินสำ
�หรับปีสิ้นสุดวันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2557