วันที่/เวลา 26 ส.ค. 2567 13:31:00
SET News :สำนักงาน ปปง. ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ยกระดับความร่วมมือในการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
หลักทรัพย์ SET
แหล่งข่าว SET
Joint Release
ฉบับที่ 89/2567
26 สิงหาคม 2567
สำนักงาน ปปง. ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
ยกระดับความร่วมมือในการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
สำนักงาน ปปง. ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
ยกระดับความร่วมมือในการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
เพื่อตัดวงจรการประกอบอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ โดยเฉพาะความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
และเพื่อสนับสนุนให้การดำเนินการบังคับใช้กฎหมายและการทำงานร่วมกันของแต่ละหน่วยงานเป็นไปอย่างมีประสิทธ
ิภาพมากขึ้น อันจะช่วยเสริมสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุนไทยให้แก่ ผู้ลงทุน
สำหรับพิธีลงนามบันทึกความตกลงว่าด้วยการประสานความร่วมมือระหว่าง 3 หน่วยงานในครั้งนี้ นายพิชัย
ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง
ได้ให้เกียรติมาเป็นประธานสักขีพยานในพิธีลงนามดังกล่าว ณ อาคารตลาดหลักทรัพย์ฯ ด้วย
นายฉัตรชัย พรหมเลิศ ประธานกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และนายเทพสุ บวรโชติดารา
เลขาธิการคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ได้กล่าวถึงการลงนามบันทึกความตกลงในวันนี้ว่า
สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ในนามของหน่วยบังคับใช้กฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
มีบทบาทต่อตลาดทุนในแง่ของทั้งการเป็นหน่วยกำกับดูแลบรรดาบริษัทหลักทรัพย์ที่เป็นสมาชิกของตลาดหลักทรัพย
์ฯ ที่ถูกกำหนดให้เป็นผู้มีหน้าที่รายงานการทำธุรกรรมต่าง ๆ ขณะเดียวกัน
ก็เป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายกับผู้ที่กระทำความผิดมูลฐานที่เกิดขึ้นในตลาดทุนด้วย
การดำเนินการกับผู้กระทำความผิดตามกฎหมายหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ ทั้งการปั่นหุ้น หรืออินไซเดอร์
เทรดดิ้ง (Insider Trading) เราจะได้รับการประสานจากสำนักงาน ก.ล.ต.
ในฐานะหน่วยงานกำกับดูแลบริษัทหลักทรัพย์โดยตรงถึงข้อมูลของการกระทำความผิด
รวมถึงข้อมูลจากตลาดหลักทรัพย์ฯ
ซึ่งทำหน้าที่เป็นด่านแรกในการตรวจสอบราคาและปริมาณการซื้อขายหุ้นว่ามีความผิดปกติหรือไม่
จากนั้นสำนักงาน ปปง.
จึงจะรับช่วงต่อในส่วนของการตรวจสอบธุรกรรมทางการเงินเพื่อนำไปสู่การดำเนินการเกี่ยวกับทรัพย์สินต่อไป
ทั้งนี้ ภายใต้กรอบกฎหมายป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน
ที่ผ่านมาต้องยอมรับว่าหน่วยงานที่กำกับดูแลต่าง ๆ ถูกมองจากผู้ลงทุนว่าทำงานล่าช้า
จนส่งผลให้ไม่สามารถป้องปรามอาชญากรรมในตลาดทุนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ส่งผลกระทบต่อภาพลักษณ์ของตลาดทุนไทย ส่วนหนึ่งอาจเนื่องจากความผิดมีความซับซ้อนและมีธุรกรรมจำนวนมาก
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องรวมทั้งสำนักงาน ปปง. จึงต้องพิจารณาดำเนินการอย่างรอบคอบ ภายใต้กรอบกฎหมาย
เพื่อไม่ให้กระทบต่อภาคธุรกิจ
การลงนามบันทึกความตกลงในวันนี้ จึงเป็นสิ่งยืนยันให้ประชาชนมั่นใจได้ว่า
ในอนาคตหากมีการกระทำความผิดเกี่ยวกับซื้อขายหลักทรัพย์เกิดขึ้น
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะพร้อมประสานข้อมูลระหว่างกัน และลดความซ้ำซ้อนในกระบวนการทำงาน
รวมถึงการส่งไม้ต่อระหว่างหน่วยบังคับใช้กฎหมายภายใต้กรอบกฎหมายของตนเพื่อการทำงานที่รวดเร็วยิ่งขึ้น
ศาสตราจารย์พิเศษ วิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ประธานกรรมการในคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
กล่าวว่า
ตลาดทุนเป็นศูนย์กลางในการระดมทุนจากประชาชนซึ่งเป็นผู้ลงทุนทั้งในและต่างประเทศเข้ามาลงทุนเป็นจำนวนมาก
อาชญากรรมทางเศรษฐกิจที่เกิดขึ้นในตลาดทุน นอกจากจะสร้างความเสียหายต่อผู้ลงทุนโดยตรงแล้ว
ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจของประเทศโดยรวมอีกด้วย โดยในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา พบว่ามีคดีใหญ่ ๆ
เป็นที่สนใจของผู้ลงทุนเกิดขึ้นในตลาดทุนหลายคดี ซึ่งมีมูลค่าความเสียหายจำนวนมากและมีผลกระทบในวงกว้าง
และโดยที่ในโอกาสแรกที่ได้เข้ามารับตำแหน่งประธานกรรมการ ก.ล.ต. ผมมีความตั้งใจว่า
ปัจจัยสำคัญประการหนึ่งในการยกระดับความเชื่อมั่นในตลาดทุนคือการดูแลธรรมาภิบาล
ซึ่งจะต้องมีกลไกกำกับดูแลที่ชัดเจนและทันต่อเหตุการณ์ และมีนโยบายที่จะให้ความสำคัญกับการป้องปราม
และบังคับใช้กฎหมายกับผู้กระทำผิดในตลาดทุนให้มีประสิทธิภาพและรวดเร็วเท่าทันกับสถานการณ์
ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้ลงทุนได้
จึงรู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่งที่เห็นการประสานความร่วมมือของทั้ง 3
หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมายในตลาดทุน
โดยการร่วมลงนามนี้เป็นก้าวสำคัญในการที่จะทำให้การปฏิบัติของหน่วยงานต่าง ๆ มีช่องว่างที่ลดลง
เพิ่มประสิทธิภาพและประสิทธิผลในการดำเนินการบังคับใช้กฎหมายยิ่งขึ้น
ศาสตราจารย์ ดร. พรอนงค์ บุษราตระกูล เลขาธิการสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์
เปิดเผยว่า ในช่วงที่ผ่านมา ก.ล.ต. ได้ประสานความร่วมมือกับสำนักงาน ปปง. และตลาดหลักทรัพย์ฯ
อย่างต่อเนื่อง โดยมีบันทึกข้อตกลงแบบทวิภาคีระหว่าง ก.ล.ต. กับสำนักงาน ปปง. และ ก.ล.ต.
กับตลาดหลักทรัพย์ฯ เพื่อประสานงานและแลกเปลี่ยนข้อมูลด้านการบังคับใช้กฎหมายระหว่างกัน ทั้งนี้
การกระทำความผิดเกี่ยวกับการกระทำไม่เป็นธรรมในการซื้อขายหลักทรัพย์
ตลอดจนความผิดเกี่ยวกับการยักยอกหรือฉ้อโกงหรือประทุษร้ายต่อทรัพย์หรือกระทำการทุจริตตามพระราชบัญญัติหล
ักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535
อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน และเป็นอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ
ซึ่งมีผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุน จึงคาดหวังว่าการร่วมลงนามในบันทึกความตกลงระหว่าง 3
หน่วยงานในครั้งนี้ จะช่วยให้การป้องปรามและบังคับใช้กฎหมายมีประสิทธิภาพเพิ่มมากยิ่งขึ้น
ผ่านความร่วมมือระหว่างกันทั้งด้านการแลกเปลี่ยนข้อมูล การประสานงาน
และการพิจารณาจัดตั้งคณะทำงานร่วมกันในกรณีที่จำเป็น
รวมทั้งเป็นส่วนสำคัญที่จะช่วยสร้างความเชื่อมั่นต่อตลาดทุน
และมีส่วนช่วยพัฒนาเศรษฐกิจโดยรวมของประเทศต่อไป
ศาสตราจารย์พิเศษ กิติพงศ์ อุรพีพัฒนพงศ์ ประธานกรรมการตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
เปิดเผยถึงความเป็นมาและวัตถุประสงค์ของการจัดทำบันทึกความตกลงระหว่างสำนักงาน ปปง. สำนักงาน ก.ล.ต.
และตลาดหลักทรัพย์ฯ ว่า
เนื่องจากเรื่องระยะเวลาการดำเนินการกับผู้กระทำความผิดเป็นเรื่องหนึ่งที่ควรจะต้องเร่งดำเนินการ คือ
การลดความซ้ำซ้อนในกระบวนการทำงานของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับการบังคับใช้กฎหมาย เช่น
ถ้าสามารถที่จะแลกเปลี่ยนหรือแชร์ข้อมูลระหว่างหน่วยงานได้โดยรวดเร็ว และไม่ต้องจัดทำข้อมูลเดียวกันซ้ำ
ๆ น่าจะช่วยลดระยะเวลาดำเนินการตรวจสอบและการบังคับใช้กฎหมายได้ รวมถึงการใช้กระบวนการทางกฎหมาย ปปง.
เพื่อดำเนินคดีกับผู้กระทำความผิดในคดีที่่มีผลกระทบต่อสังคมและผู้ลงทุนอย่างมีนัยสำคัญ
ซึ่งเห็นว่าจะทำให้สามารถดึงความเชื่อมั่นจากผู้ลงทุนกลับมาได้
และป้องปรามให้ผู้ที่คิดจะกระทำความผิดเกิดความเกรงกลัว ดังนั้น พิธีลงนามบันทึกความตกลงระหว่างสำนักงาน
ปปง. สำนักงาน ก.ล.ต. และตลาดหลักทรัพย์ฯ ในวันนี้
จึงเป็นไปเพื่อประสานความร่วมมือในการป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์
อันเป็นความผิดมูลฐานตามกฎหมายฟอกเงิน
ซึ่งจะเป็นจุดเริ่มต้นของการบูรณาการการทำงานของหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเพื่อให้สามารถดำเนินการทางก
ฎหมายกับผู้กระทำความผิดได้อย่างรวดเร็วและเข้มข้นมากขึ้น
ดร. ภากร ปีตธวัชชัย กรรมการและผู้จัดการ ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย เปิดเผยว่า จากเหตุการณ์ต่าง ๆ
ที่เกิดขึ้นกับบริษัทจดทะเบียนในช่วงที่ผ่านมา
ได้ส่งผลกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศ ซึ่งตลาดหลักทรัพย์ฯ
ตระหนักถึงความสำคัญของความร่วมมือระหว่างหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรมเพื่อป้องปรามและสนับสนุนให้มีการด
ำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ
ซึ่งจะช่วยสร้างความเชื่อมั่นของผู้ลงทุนที่มีต่อตลาดทุนไทย ทั้งนี้ ตลาดหลักทรัพย์ฯ
ได้มีการหารือและประสานการทำงานร่วมกับสำนักงาน ก.ล.ต. สำนักงาน ปปง. รวมถึงหน่วยงานอื่น ๆ
ที่เกี่ยวข้องมาโดยตลอด อันนำมาสู่การลงนามบันทึกความตกลงของทั้ง 3 หน่วยงาน
เพื่อประสานความร่วมมือในการป้องปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับการซื้อขายหลักทรัพย์ในวันนี้
ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการยกระดับการกำกับดูแลตลาดทุนไทย โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ เชื่อมั่นว่า
การบูรณาการการทำงานร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะนำไปสู่การเสริมสร้างความเข้มแข็งของตลาดทุนไท
ยได้อย่างยั่งยืนต่อไป
******************************************
______________________________________________________________________