การซื้อขายหลักทรัพย์
ผู้ลงทุนสามารถทำการซื้อขายหลักทรัพย์โดยผ่านระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์ได้ 2 วิธี ดังนี้
Automatic Order Matching (AOM)
เป็นวิธีการซื้อขายที่ผู้ซื้อและผู้ขายส่งการเสนอซื้อเสนอขายด้วยคอมพิวเตอร์ ผ่านเข้ามายังระบบการซื้อขายของตลาดหลักทรัพย์โดยที่ระบบคอมพิวเตอร์ของตลาดหลักทรัพย์จะทำการเรียงลำดับและจับคู่คำสั่งซื้อขายให้โดยอัตโนมัติ
1. การจัดเรียงลำดับคำสั่งซื้อขาย
เมื่อสามารถส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามา ระบบการซื้อขายจะเก็บคำสั่งซื้อขายไว้ตั้งแต่เวลาที่ส่งคำสั่งซื้อขายจนถึงสิ้นวันทำการ และจัดเรียงคำสั่งซื้อขายตามลำดับของราคาและเวลาที่ดีที่สุด (Price then Time Priority) โดยมีหลักการคือ
2. การจับคู่การซื้อขาย (Matching)
เมื่อคำสั่งซื้อขายผ่านเข้ามาในระบบซื้อขายแล้ว ระบบซื้อขายจะตรวจสอบว่าคำสั่งนั้นสามารถจับคู่กับคำสั่งด้านตรงข้ามได้ทันทีหรือไม่ ถ้าคำสั่งนั้นสามารถจับคู่ได้ทันทีระบบก็จะทำการจับคู่ให้ แต่ถ้าคำสั่งนั้นไม่สามารถจับคู่ได้ระบบจะจัดเรียงคำสั่งซื้อขายนั้นตามหลักการ Price then Time Priority ตามที่กล่าวข้างต้นเพื่อรอการจับคู่คำสั่งต่อไป
3. การกำหนดเวลาขั้นต่ำของคำสั่งซื้อขาย ก่อนที่จะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งซื้อขาย (Minimum resting time)
เมื่อมีการส่งคำสั่งซื้อขายเข้ามาในระบบการซื้อขาย ตลาดหลักทรัพย์ฯ กำหนดให้คำสั่งซื้อขายดังกล่าวต้องคงอยู่ในระบบซื้อขายเป็นเวลาอย่างน้อย 250 มิลลิวินาที จึงจะสามารถแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งดังกล่าวได้ โดยตลาดหลักทรัพย์ฯ อาจ Reject การแก้ไขหรือยกเลิกคำสั่งกรณีระยะเวลาคงอยู่ในระบบน้อยกว่า 250 มิลลิวินาที
มีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 2 กันยายน 2567 เป็นต้นไป
Trade Report
เป็นวิธีการซื้อขายที่ผู้ซื้อและผู้ขายได้ทำการเจรจาต่อรองเพื่อตกลงซื้อขาย แล้วจึงบันทึกรายการซื้อขายนั้นเข้ามาในระบบการซื้อขายโดยบริษัทสมาชิกสามารถประกาศโฆษณา (Advertise) การเสนอซื้อ หรือ เสนอขายของตนผ่านระบบการซื้อขายได้ การซื้อขายด้วยวิธี Trade Report แบ่งวิธีการส่งเป็น 2 วิธีการคือ
การบันทึกการซื้อขายด้วยวิธี Trade Report แบ่งเป็น