การคำนวณหาราคาเปิด และราคาปิด
เพื่อให้การคำนวณหาราคาเปิดและราคาปิดมีความโปร่งใสเป็นธรรม สะท้อนอุปสงค์และอุปทานที่แท้จริงของหลักทรัพย์ในแต่ละวัน ตลาดหลักทรัพย์ใช้วิธีคำนวณราคาเปิดหรือปิดด้วยวิธี Auction โดยในช่วงเวลาก่อนเปิดหรือปิดทำการซื้อขาย (Pre-open หรือ Pre-close) สามารถส่งคำสั่งซื้อขายประเภทไม่ระบุราคา (คำสั่งประเภท ATO หรือ ATC) เข้ามายังระบบการซื้อขายได้
ระบบจะนำคำสั่งซื้อขายทั้งหมดมาเรียงลำดับตามหลักราคาและเวลาที่ดีที่สุด และคำนวณหาราคาเปิด หรือราคาปิด โดยมีหลักการคำนวน ดังนี้
| (1) เป็นราคาที่ทำให้เกิดการซื้อขายมากที่สุดเมื่อแรกเปิดทำการซื้อขายประจำวัน (2) ในกรณีที่ราคาตาม (1) มีมากกว่าหนึ่งราคา ให้ใช้ราคาที่มีปริมาณคงเหลือหลังการจับคู่น้อยที่สุด (Minimum Imbalance) ตามตัวอย่างที่ 1 (3) ในกรณีที่ราคาตาม (2) มีมากกว่าหนึ่งราคา ให้ใช้ราคา ดังต่อไปนี้ |
3.1 หากมีจำนวนเสนอซื้อรวมมากกว่าจำนวนเสนอขายรวม (Positive Imbalance) ทุกระดับราคาให้ใช้ราคาตาม (2) ที่สูงที่สุด ตามตัวอย่างที่ 2
3.2 หากมีจำนวนเสนอขายรวมมากกว่าจำนวนเสนอซื้อรวม (Negative Imbalance) ทุกระดับราคาให้ใช้ราคาตาม (2) ที่ต่ำที่สุด ตามตัวอย่างที่ 3
3.3 หากปริมาณซื้อรวมเท่ากับปริมาณขายรวมในทุกระดับราคา ให้ใช้ราคาใกล้เคียงราคาซื้อขายสุดท้าย (Last Sale) หากไม่มี Last Sale ให้ใช้ราคาใกล้เคียงราคา IPO หากไม่มีราคา IPO ให้ใช้ราคาที่ต่ำที่สุด ตามตัวอย่างที่ 4
ทั้งนี้ระบบการซื้อขายจะจัดให้คำสั่ง ATO / ATC เป็นราคาดังนี้
หาก ATO/ATC เป็น Bid ระบบการซื้อขายจะเทียบระหว่าง Bid สูงสุด + 1 Tick และ Offer สูงสุด + 1 Tick และเลือกราคาที่สูงกว่า
|
หาก ATO/ATC เป็น Offer ระบบการซื้อขายจะเทียบระหว่าง Offer ต่ำสุด - 1 Tick และ Bid ต่ำสุด - 1 Tick และเลือกราคาที่ต่ำกว่า
|
จากการจัดการคำสั่ง ATO / ATC ดังกล่าว ส่งผลให้ราคาเปิดและราคาปิด อาจอยู่นอกกรอบราคา Ceiling & Floor ได้ แต่ไม่เกิน ±1 Tick อย่างไรก็ตามผู้ลงทุนสามารถหลีกเลี่ยงได้ โดยส่งคำสั่งที่ระบุราคา (Limit Price) แทนคำสั่ง ATO / ATC
ตัวอย่างที่ 1 Maximum Executable Volume & Minimum Imbalance
ATO ด้านซื้อ = ราคาที่สูงกว่าระหว่าง Bid สูงสุด + 1 Tick หรือ Offer สูงสุด + 1 Tick = 10.90 + 0.10 = 11.00
ATO ด้านขาย = ราคาที่ต่ำกว่าระหว่าง Bid ต่ำสุด - 1 Tick หรือ Offer ต่ำสุด - 1 Tick = 10.50 - 0.10 = 10.40
ตัวอย่างที่ 2 กรณี Positive Imbalance ใช้ราคาสูงสุด
ATO ด้านซื้อ = ราคาที่สูงกว่าระหว่าง Bid สูงสุด + 1 Tick หรือ Offer สูงสุด + 1 Tick = 11.00 + 0.10 = 11.10
ATO ด้านขาย = ราคาที่ต่ำกว่าระหว่าง Bid ต่ำสุด - 1 Tick หรือ Offer ต่ำสุด - 1 Tick = 10.30 - 0.10 = 10.20
ตัวอย่างที่ 3 กรณี Negative Imbalance ใช้ราคาต่ำสุด
ATO ด้านซื้อ = ราคาที่สูงกว่าระหว่าง Bid สูงสุด + 1 Tick หรือ Offer สูงสุด + 1 Tick = 11.00 + 0.10 = 11.10
ATO ด้านขาย = ราคาที่ต่ำกว่าระหว่าง Bid ต่ำสุด - 1 Tick หรือ Offer ต่ำสุด - 1 Tick = 10.20 - 0.10 = 10.10
ตัวอย่างที่ 4 กรณี Imbalance = 0, ใช้ราคาใกล้เคียง Last salee
ATO ด้านซื้อ = ราคาที่สูงกว่าระหว่าง Bid สูงสุด + 1 Tick หรือ Offer สูงสุด + 1 Tick = 10.90 + 0.10 = 11.00
ATO ด้านขาย = ราคาที่ต่ำกว่าระหว่าง Bid ต่ำสุด - 1 Tick หรือ Offer ต่ำสุด - 1 Tick = 10.10 - 0.10 = 10.00