บริษัทต่างประเทศ

บริษัทต่างประเทศซึ่งไม่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (Primary Listing)

นิติบุคคลต่างประเทศสามารถเข้าจดทะเบียนได้โดยตรงกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตลาดแรก เรียกว่า Primary Listing
ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่างประเทศสามารถระดมทุนจากตลาดทุนไทยเพื่อการขยายการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต

นิติบุคคลต่างประเทศสามารถเข้าจดทะเบียนได้โดยตรงกับตลาดหลักทรัพย์ฯ เป็นตลาดแรก เรียกว่า Primary Listing ซึ่งจะช่วยให้บริษัทต่างประเทศสามารถระดมทุนจากตลาดทุนไทยเพื่อการขยายการเติบโตทางธุรกิจในอนาคต

ค่าใช้จ่ายในการเข้าจดทะเบียน / ภาษี


img_listing_primarycompany
1. เตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียน

1. เตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียน


  • ค่าธรรมเนียมที่ปรึกษาทางการเงิน (Financial Advisor)
    ขึ้นอยู่กับปริมาณงานและความพร้อมของบริษัท และมีวิธีการชำระค่าบริการหลายวิธี เช่น 
          - คิดเป็นราคาเหมาจ่าย

          - คิดเป็นร้อยละของมูลค่าเงินทุนที่ระดมได้
          - คิดเป็นสัดส่วนตามงานที่ทำเสร็จ ฯลฯ
  • ค่าผู้สอบบัญชี (Auditor)
    ขึ้นอยู่กับปริมาณงานและความพร้อมของบริษัท
  • ค่าผู้ตรวจสอบภายใน (Internal Auditor)
    ขึ้นอยู่กับปริมาณงานและความพร้อมของบริษัท
2. การยื่นคำขอเสนอขายหลักทรัพย์ต่อประชาชนและเข้าจดทะเบียน

ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขออนุญาตเสนอขายหลักทรัพย์ที่ออกใหม่ต่อประชาชนประเภทหุ้นต่อสำนักงาน ก.ล.ต.
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขออนุญาต : 50,000 บาท
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ประเภทหุ้น (แบบ Filing) : 0.08% ของมูลค่าของหุ้นทั้งหมดที่เสนอขาย แบ่งชำระดังนี้
    - 30,000 บาท ในวันที่ยื่นแบบ Filing

    - ส่วนที่เหลือ (ถ้ามี) ในวันที่แบบ Filing มีผลบังคับใช้
  • ค่าธรรมเนียมการยื่นแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี : คิดตามส่วนของผู้ถือหุ้น
ส่วนของผู้ถือหุ้น     ค่าธรรมเนียม
น้อยกว่า 500 ล้านบาท50,000 บาท
ตั้งแต่ 500 แต่ไม่ถึง 1,000 ล้านบาท100,000 บาท
ตั้งแต่ 1,000 ล้านบาทขึ้นไป300,000 บาท

ค่าธรรมเนียมการยื่นคำขอเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

ค่าธรรมเนียม     รายละเอียด
ยื่นคำขอ50,000 บาท
แรกเข้า0.05% ของทุนชำระแล้ว
  • ขั้นต่ำ 100,000 บาท
  • ขั้นสูง 3,000,000 บาท
รายปี
ผันแปรตามทุนชำระแล้ว แบบอัตราถดถอย
  • ขั้นต่ำ 50,000 บาท
  • ขั้นสูง 3,000,000 บาท
อัตราค่าธรรมเนียม :
 ทุนชำระแล้ว ≤200 ล้านบาทอัตรา 0.035%
200 ล้านบาท< ทุนชำระแล้ว ≤1,000 ล้านบาทอัตรา 0.030%
1,000 ล้านบาท< ทุนชำระแล้ว ≤5,000 ล้านบาทอัตรา 0.025%
5,000 ล้านบาท< ทุนชำระแล้ว ≤10,000 ล้านบาทอัตรา 0.020%
 ทุนชำระแล้ว >10,000 ล้านบาทอัตรา 0.010%
(บจ/ร 01-10) อัตราค่าธรรมเนียมในการรับหุ้นสามัญหรือหุ้นบุริมสิทธิเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน พ.ศ. 2558
หมายเหตุ
  • ค่าธรรมเนียมรายปีให้คำนวณตามระยะเวลาในการเป็นหลักทรัพย์จดทะเบียน
  • ทุนชำระแล้ว ใช้ทุนชำระแล้วในส่วนของหุ้นสามัญ และหุ้นบุริมสิทธิที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
  • ตลาดหลักทรัพย์ ยกเว้น ค่าธรรมเนียมการรับหุ้นเพิ่มทุน
  • ยังมิได้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม

productdr1

ค่าใช้จ่ายในการเสนอขายหุ้น
  • ค่าจัดพิมพ์หนังสือชี้ชวนเสนอขายหุ้นสามัญ
  • ค่าใช้จ่ายประชาสัมพันธ์ / การจัดกิจกรรม Road show
  • ค่าธรรมเนียมรับประกันการจัดจำหน่ายหลักทรัพย์คิดเป็นร้อยละของมูลค่าการระดมทุน

Group 15158

ค่าใช้จ่ายอื่นๆ
  • ค่าที่ปรึกษากฎหมาย
  • ค่าผู้ประเมินมูลค่าทรัพย์สิน เป็นต้น

ภาษีที่เกี่ยวข้อง

ผู้ลงทุนเข้ามาซื้อขายหลักทรัพย์ซึ่งจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยผู้ลงทุนมีหน้าที่จะต้องรับผิดชอบเสียภาษีอากรตามที่กฎหมายกำหนดให้ถูกต้องและครบถ้วน

Untitled-2 1

การรับบริษัทจดทะเบียนต่างประเทศแบบ Primary Listing

หลักเกณฑ์การนำหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) 
ในการพิจารณารับหุ้นสามัญของบริษัทเข้าจดทะเบียน ตลาดหลักทรัพย์ฯ จะพิจารณาทั้งจากคุณสมบัติของหุ้นสามัญและคุณสมบัติของบริษัทที่ยื่นคำขอดังนี้

  • มีมูลค่าที่ตราไว้ (Par) ไม่น้อยกว่าหุ้นละ 0.50 บาท และชำระเต็มมูลค่าแล้วทั้งหมด
  • ระบุชื่อผู้ถือ
  • ไม่มีข้อจำกัดในการโอนหุ้น ยกเว้นข้อจำกัดที่เป็นไปตามกฎหมายและต้องระบุไว้ในข้อบังคับบริษัท
เรื่องคุณสมบัติ

สถานะ

เป็นบริษัทต่างประเทศตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1

ทุนชำระแล้วเฉพาะหุ้นสามัญ
(หลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน)

≥ 300 ล้านบาท

ฐานะการเงินและสภาพคล่อง

  • มีส่วนของผู้ถือหุ้น > 300 ล้านบาท และก่อน IPO ต้องมีส่วนของผู้ถือหุ้น > 0
  • แสดงได้ว่ามีฐานะการเงินมั่นคงและมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ

ผลการดำเนินงาน

เกณฑ์กำไร (Profit Test)
  • มีกำไรสุทธิในระยะเวลา 2 ปี หรือ 3 ปี ล่าสุดก่อนยื่นคำขอรวมกัน > 50 ล้านบาท โดยในปีล่าสุดก่อนยื่นคำขอมีกำไรสุทธิ > 30 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ
  • มีผลการดำเนินงาน > 3 ปีโดยอยู่ภายใต้การจัดการของกรรมการและผู้บริหารส่วนใหญ่
    กลุ่มเดียวกันมาอย่างต่อเนื่อง > 1 ปี ก่อนยื่นคำขอ
เกณฑ์ Market Cap/1

กระจายการถือหุ้นรายย่อย/2

  • จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย > 1,000 ราย
  • อัตราส่วนการถือหุ้น
    • ถือหุ้นรวมกัน ≥ 25% ของทุนชำระแล้ว (300 ล้านบาท ≤ ทุนชำระแล้ว < 3,000 ล้านบาท)
    • ถือหุ้นรวมกัน > 20% ของทุนชำระแล้ว (ทุนชำระแล้ว ≥ 3,000 ล้านบาท)
  • แต่ละรายต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 1 หน่วยการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด

การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน

  • ต้องได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
  • เสนอขายผ่านผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
  • จำนวนหุ้นที่เสนอขาย
    • ทุนชำระแล้ว < 500 ล้านบาท: เสนอขาย > 15% ของทุนชำระแล้ว 
    • ทุนชำระแล้ว > 500 ล้านบาท: เสนอขาย > 10% ของทุนชำระแล้ว หรือมูลค่าหุ้นสามัญตามมูลค่าที่ตราไว้ ≥ 75 ล้านบาทแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า

การบริหารงาน

  • มีกรรมการซึ่งมีคุณสมบัติและองค์ประกอบตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ (ต้องมีกรรมการสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในไทยอย่างน้อย 2 คน โดยอย่างน้อย 1 คน ต้องเป็นกรรมการตรวจสอบ)
  • มีกรรมการ ผู้บริหาร และผู้มีอำนาจควบคุมที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
    • ไม่เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1
    • ไม่เป็นบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่อาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์ หรือการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์
  • มีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทอย่างชัดเจน และในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีการมอบหมายอำนาจให้ผู้จัดการหรือบุคคลอื่นปฏิบัติการแทนคณะกรรมการบริษัทในเรื่องใด การมอบอำนาจดังกล่าวต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1
  • มีผู้รับผิดชอบสูงสุดสายงานบัญชีและการเงิน (CFO) และผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

การกำกับดูแลกิจการและการควบคุมภายใน

  • มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีกรรมการอิสระซึ่งมีองค์ประกอบและคุณสมบัติตามที่กำหนด ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1 และมีคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ซึ่งมีองค์ประกอบ คุณสมบัติ และขอบเขตการดำเนินงานตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
  • จัดให้มีระบบการควบคุมภายในที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1

ความขัดแย้งทางผลประโยชน์

ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน สำหรับบริษัทต่างประเทศ/1

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

ไม่มีการดำเนินงานในลักษณะที่เป็นการประกอบธุรกิจบริหารจัดการกองทุน (Investment Company) ตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน/3 โดยมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2567

งบการเงินและผู้สอบบัญชี

  • มีงบการเงินที่มีลักษณะและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1
  • ผู้สอบบัญชีของผู้ยื่นคำขอต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.

การเปิดเผยข้อมูล

เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านข้อจำกัดของการบังคับใช้กฎหมายของบริษัท

นายทะเบียน

แต่งตั้งให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) หรือบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นชอบเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์

การห้ามขายหุ้น/4 (Silent Period)

ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders/2 จะถูกห้ามนำหุ้นของตนซึ่งมีจำนวนรวมกัน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ออกขายภายในกำหนดระยะเวลา
ก) ธุรกิจทั่วไป: 1 ปี 6 เดือน นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยหลังจากหุ้นซื้อขายครบ 1 ปี สามารถทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย
ข) ธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน: 3 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยหลังจากหุ้นซื้อขายครบ 1 ปี สามารถทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย และเมื่อครบทุก 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย

ตัวแทนติดต่อประสานงาน

มีตัวแทนในการติดต่อประสานงานอยู่ในประเทศไทยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนในการเปิดเผยสารสนเทศหรือดำเนินการใดๆ ของผู้ยื่นคำขอ

ที่ปรึกษาการเงิน

ที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ในบัญชีที่สำนักงานก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบร่วมจัดทำคำขอเข้าจดทะเบียนและดูแลต่อเนื่อง 1 ปี นับแต่วันที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

Opportunity Day

 

บริษัทต้องจัดประชุมเพื่อนำเสนอและชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย เพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูล รวมทั้งสามารถซักถามผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนได้

หมายเหตุ
/1 โปรดศึกษาหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในการรับหุ้นสามัญตามเกณฑ์ Market Capitalization ศึกษาได้ที่หัวข้อเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ – บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจทั่วไป ตามข้อ 1.2
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.3/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นที่ออกโดยบริษัทต่างประเทศซึ่งไม่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (ฉบับประมวล)
/2 ผู้ถือหุ้นรายย่อยคือ ผู้ที่ไม่ได้เป็น Strategic Shareholders โดย Strategic Shareholders คือ
  • กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น > 5% ของทุนชำระแล้ว รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้มีอำนาจควบคุม
/3 Investment Company ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน หมายถึง การลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด หรือหลายอย่างดังนี้ เป็นมูลค่ารวมกันเกินกว่า 40% ของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินหรืองบการเงินรวมงวดล่าสุด
  • (1) การลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้ออกโดยบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมของบริษัท หรือการลงทุนในหุ้นที่ไม่มีผลให้บริษัทที่ออกหุ้นดังกล่าวเป็นบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมของบริษัท เว้นแต่เป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนธุรกิจของบริษัทหรือการลงทุนในบริษัทในเครือที่อยู่ภายใต้บริษัทใหญ่เดียวกัน หรือการลงทุนในบริษัทเครือข่ายที่แสดงได้ว่ามีนโยบายหรือทิศทางในการร่วมมือหรือสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างกัน
  • (2) การลงทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเงินลงทุน หรือดอกผล แต่ไม่รวมถึงการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยเต็มจำนวนอย่างไม่มีเงื่อนไข และหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินหรือกองทุนรวมตราสารหนี้
  •  
  • การคำนวณสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวให้นับรวมมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทย่อยที่มิได้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน และการลงทุนของบริษัทในหุ้นที่ออกโดยบริษัทร่วมที่มีการลงทุนตามข้างต้นและมิได้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงินด้วย
  •  
/4สำหรับบริษัทต่างประเทศที่มีบุคคลไทยถือหุ้นรวมกัน > 50% หรือ ≥ 40% เนื่องจากมีข้อจำกัดตามกฎหมายอื่นหรือมีเงื่อนไขการร่วมทุนกับภาครัฐ (Thai Link) กำหนดระยะเวลาการห้ามขายหุ้น 1 ปี หลังวันที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และเมื่อครบ 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นได้ 25% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย
เรื่องคุณสมบัติ

สถานะ

เป็นบริษัทต่างประเทศตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1

ทุนชำระแล้วเฉพาะหุ้นสามัญ
(หลังเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน)

≥ 100 ล้านบาท

ฐานะการเงินและสภาพคล่อง

  • มีส่วนของผู้ถือหุ้น > 800 ล้านบาท และก่อน IPO ต้องมีส่วนของผู้ถือหุ้น > 0
  • แสดงได้ว่ามีฐานะการเงินมั่นคงและมีเงินทุนหมุนเวียนเพียงพอ

ผลการดำเนินงาน

เกณฑ์กำไร (Profit Test)
  • มีกำไรสุทธิในระยะเวลา 2 ปี หรือ 3 ปี ล่าสุดก่อนยื่นคำขอรวมกัน > 125 ล้านบาท โดยในปีล่าสุดก่อนยื่นคำขอมีกำไรสุทธิ > 75 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิในงวดสะสมก่อนยื่นคำขอ
  • มีผลการดำเนินงาน > 3 ปีโดยอยู่ภายใต้การจัดการของกรรมการและผู้บริหารส่วนใหญ่
    กลุ่มเดียวกันมาอย่างต่อเนื่อง > 1 ปี ก่อนยื่นคำขอ
เกณฑ์ Market Cap/1
ข้อกำหนดเป็นไปตามหลักเกณฑ์ Market Cap Test

กระจายการถือหุ้นรายย่อย/2

  • จำนวนผู้ถือหุ้นรายย่อย > 1,000 ราย
  • อัตราส่วนการถือหุ้น ดังนี้
    • ถือหุ้นรวมกัน ≥ 30%ของทุนชำระแล้ว กรณีทุนชำระแล้ว < 300 ล้านบาท
    • ถือหุ้นรวมกัน ≥ 25%ของทุนชำระแล้ว กรณีทุนชำระแล้ว ≥ 300 ล้านบาท แต่ < 3,000 ล้านบาท
    • ถือหุ้นรวมกัน ≥ 20%ของทุนชำระแล้ว กรณีทุนชำระแล้ว ≥ 3,000 ล้านบาท
    • แต่ละรายต้องถือหุ้นไม่น้อยกว่า 1 หน่วยการซื้อขายที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด

การเสนอขายหุ้นแก่ประชาชน

  • ต้องได้รับอนุญาตให้เสนอขายหุ้นจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.
  • เสนอขายผ่านผู้จัดจำหน่ายหลักทรัพย์
  • จำนวนหุ้นที่เสนอขายตามเงื่อนไข ดังนี้
    • เสนอขาย ≥ 20% ของทุนชำระแล้ว กรณีทุนชำระแล้ว < 300 ล้านบาท
    • เสนอขาย ≥ 15%ของทุนชำระแล้ว หรือมูลค่าหุ้นตาม par ≥ 60 ล้านบาท แล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า กรณีทุนชำระแล้ว ≥ 300 ล้านบาท แต่ < 500 ล้านบาท
    • เสนอขาย ≥ 10% หรือมูลค่าหุ้นตาม par ≥ 75 ล้านบาทแล้วแต่จำนวนใดจะสูงกว่า กรณีทุนชำระแล้ว ≥ 500 ล้านบาท

การบริหารงาน

  • มีกรรมการซึ่งมีคุณสมบัติและองค์ประกอบตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ (ต้องมีกรรมการสัญชาติไทยและมีถิ่นที่อยู่ในไทยอย่างน้อย 2 คน โดยอย่างน้อย 1 คน ต้องเป็นกรรมการตรวจสอบ)
  • มีกรรมการ ผู้บริหาร และผู้มีอำนาจควบคุมที่มีคุณสมบัติดังต่อไปนี้
    1. ไม่เป็นบุคคลที่มีลักษณะต้องห้ามตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1
    2. ไม่เป็นบุคคลที่ฝ่าฝืนข้อกำหนดของตลาดหลักทรัพย์ฯ ที่อาจมีผลกระทบอย่างร้ายแรงต่อสิทธิประโยชน์ หรือการตัดสินใจของผู้ถือหุ้นและผู้ลงทุนหรือการเปลี่ยนแปลงในราคาของหลักทรัพย์
  • มีการกำหนดขอบเขตอำนาจหน้าที่ของคณะกรรมการบริษัทอย่างชัดเจน และในกรณีที่คณะกรรมการบริษัทมีการมอบหมายอำนาจให้ผู้จัดการหรือบุคคลอื่นปฏิบัติการแทนคณะกรรมการบริษัทในเรื่องใด การมอบอำนาจดังกล่าวต้องเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนด ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1
  • มีผู้รับผิดชอบสูงสุดสายงานบัญชีและการเงิน (CFO) และผู้ควบคุมดูแลการทำบัญชี ที่มีคุณสมบัติตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน

การกำกับดูแลกิจการและการควบคุมภายใน

  • มีระบบการกำกับดูแลกิจการที่ดี มีกรรมการอิสระซึ่งมีองค์ประกอบและคุณสมบัติตามที่กำหนด ในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1 และมีคณะกรรมการตรวจสอบ (Audit Committee) ซึ่งมีองค์ประกอบ คุณสมบัติ และขอบเขตการดำเนินงานตามที่ตลาดหลักทรัพย์กำหนด
  • จัดให้มีระบบการควบคุมภายในที่เพียงพอและมีประสิทธิภาพตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1

ความขัดแย้งทางผลประโยชน์

ไม่มีความขัดแย้งทางผลประโยชน์ ตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน สำหรับบริษัทต่างประเทศ/1

ลักษณะการประกอบธุรกิจ

ไม่มีการดำเนินงานในลักษณะที่เป็นการประกอบธุรกิจบริหารจัดการกองทุน (Investment Company) ตามที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน /3

งบการเงินและผู้สอบบัญชี

  • มีงบการเงินที่มีลักษณะและเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ/1
  • ผู้สอบบัญชีของผู้ยื่นคำขอต้องได้รับความเห็นชอบจากสำนักงานคณะกรรมการ ก.ล.ต.

การเปิดเผยข้อมูล

เปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับความเสี่ยงด้านข้อจำกัดของการบังคับใช้กฎหมายของบริษัท

นายทะเบียน

แต่งตั้งให้บริษัท ศูนย์รับฝากหลักทรัพย์ (ประเทศไทย) จำกัด (TSD) หรือบุคคลที่ตลาดหลักทรัพย์เห็นชอบเป็นนายทะเบียนหลักทรัพย์

การห้ามขายหุ้น/4 (Silent Period)

ผู้เข้าข่าย Strategic Shareholders/2 จะถูกห้ามนำหุ้นของตนซึ่งมีจำนวนรวมกัน 55% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO ออกขายภายในกำหนดระยะเวลา
ก) ธุรกิจทั่วไป: 1 ปี 6 เดือน นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยหลังจากหุ้นซื้อขายครบ 1 ปี สามารถทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย
ข) ธุรกิจสาธารณูปโภคพื้นฐาน: 3 ปี นับแต่วันที่หุ้นเริ่มทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ โดยหลังจากหุ้นซื้อขายครบ 1 ปี สามารถทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย และเมื่อครบทุก 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นได้ 20% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย

ตัวแทนติดต่อประสานงาน

มีตัวแทนในการติดต่อประสานงานอยู่ในประเทศไทยตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนสำหรับบริษัทต่างประเทศ เพื่อเป็นตัวแทนในการเปิดเผยสารสนเทศหรือดำเนินการใดๆ ของผู้ยื่นคำขอ

ที่ปรึกษาการเงิน

ที่ปรึกษาทางการเงินอยู่ในบัญชีที่สำนักงานก.ล.ต. ให้ความเห็นชอบร่วมจัดทำคำขอเข้าจดทะเบียนและดูแลต่อเนื่อง 1 ปี นับแต่วันที่เริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์

Opportunity Day

 

บริษัทต้องจัดประชุมเพื่อนำเสนอและชี้แจงข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจและผลการดำเนินงานของบริษัทให้แก่ผู้ถือหุ้น ผู้ลงทุน และบุคคลที่เกี่ยวข้อง อย่างน้อย 1 ครั้ง ภายใน 1 ปีนับแต่วันที่หุ้นเริ่มซื้อขาย เพื่อให้บุคคลดังกล่าวสามารถเข้าถึงและได้รับข้อมูล รวมทั้งสามารถซักถามผู้บริหารของบริษัทจดทะเบียนได้

หมายเหตุ
/1 โปรดศึกษาหลักเกณฑ์เพิ่มเติมในการรับหุ้นสามัญตามเกณฑ์ Market Capitalization ศึกษาได้ที่หัวข้อเกณฑ์การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ – บริษัทที่มีการประกอบธุรกิจทั่วไป ตามข้อ 1.3
ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.3/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นที่ออกโดยบริษัทต่างประเทศซึ่งไม่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (ฉบับประมวล)
/2 ผู้ถือหุ้นรายย่อยคือ ผู้ที่ไม่ได้เป็น Strategic Shareholders โดย Strategic Shareholders คือ
  • กรรมการ ผู้จัดการ และผู้บริหาร รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้ถือหุ้นที่ถือหุ้น > 5% ของทุนชำระแล้ว รวมถึงผู้ที่เกี่ยวข้อง
  • ผู้มีอำนาจควบคุม

/3 Investment Company ตามประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุน หมายถึง การลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทที่มีลักษณะอย่างหนึ่งอย่างใด หรือหลายอย่างดังนี้ เป็นมูลค่ารวมกันเกินกว่า 40% ของสินทรัพย์รวมตามงบการเงินหรืองบการเงินรวมงวดล่าสุด

  • (1) การลงทุนในหุ้นที่ไม่ได้ออกโดยบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมของบริษัท หรือการลงทุนในหุ้นที่ไม่มีผลให้บริษัทที่ออกหุ้นดังกล่าวเป็นบริษัทย่อยหรือบริษัทร่วมของบริษัท เว้นแต่เป็นการลงทุนที่เกี่ยวข้องหรือสนับสนุนธุรกิจของบริษัทหรือการลงทุนในบริษัทในเครือที่อยู่ภายใต้บริษัทใหญ่เดียวกัน หรือการลงทุนในบริษัทเครือข่ายที่แสดงได้ว่ามีนโยบายหรือทิศทางในการร่วมมือหรือสนับสนุนการดำเนินงานระหว่างกัน
  • (2) การลงทุนโดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการเพิ่มขึ้นของมูลค่าเงินลงทุน หรือดอกผล แต่ไม่รวมถึงการลงทุนในพันธบัตรรัฐบาล ตราสารหนี้ที่กระทรวงการคลังค้ำประกันต้นเงินและดอกเบี้ยเต็มจำนวนอย่างไม่มีเงื่อนไข และหน่วยลงทุนของกองทุนรวมตลาดเงินหรือกองทุนรวมตราสารหนี้
  •  
  • การคำนวณสัดส่วนการลงทุนดังกล่าวให้นับรวมมูลค่าการลงทุนในหลักทรัพย์ สัญญาซื้อขายล่วงหน้า หรือสินทรัพย์ดิจิทัลของบริษัทย่อยที่มิได้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงิน และการลงทุนของบริษัทในหุ้นที่ออกโดยบริษัทร่วมที่มีการลงทุนตามข้างต้นและมิได้ประกอบธุรกิจสถาบันการเงินด้วย

/4 สำหรับบริษัทต่างประเทศที่มีบุคคลไทยถือหุ้นรวมกัน > 50% หรือ ≥ 40% เนื่องจากมีข้อจำกัดตามกฎหมายอื่นหรือมีเงื่อนไขการร่วมทุนกับภาครัฐ (Thai Link) กำหนดระยะเวลาการห้ามขายหุ้น 1 ปี หลังวันที่หุ้นเริ่มซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ และเมื่อครบ 6 เดือน สามารถทยอยขายหุ้นได้ 25% ของหุ้นที่ถูกห้ามขาย

ขั้นตอนการพิจารณารับหุ้นสามัญเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET)

img_Listing_step

ขั้นตอนการพิจารณารับหุ้นสามัญ
เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์
แห่งประเทศไทย (SET)

img_Listing_step_mb

เกณฑ์ที่เกี่ยวข้อง

  • ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.3/2558 เรื่อง ข้อกำหนดเกี่ยวกับการเสนอขายหุ้นที่ออกโดยบริษัทต่างประเทศซึ่งไม่มีหุ้นเป็นหลักทรัพย์ซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ต่างประเทศ (ฉบับประมวล) 
  • ประกาศคณะกรรมการกำกับตลาดทุนที่ ทจ.39/2559 เรื่อง การขออนุญาตและการอนุญาตให้เสนอขายหุ้นที่ออกใหม่ (ฉบับประมวล)
  • ประกาศคณะกรรมการ ก.ล.ต.ที่ กจ.17/2551 เรื่อง การกำหนดบทนิยามในประกาศเกี่ยวกับการออกและเสนอขายหลักทรัพย์ (ฉบับประมวล) 

แบบฟอร์มที่เกี่ยวข้อง

  • FAQ แนวทางการพิจารณาเกี่ยวกับการรับหลักทรัพย์  tagname1