SET App
Settrade App
“เคยมั้ย เห็นป้าย Sales แล้วใจสั่น อยากซื้อขึ้นมาทันที ทั้ง ๆ ที่ไม่เคยสนใจยี่ห้อนี้เลยด้วยซ้ำ”
“รู้อยู่แล้วว่า ตังค์ก็ไม่ค่อยจะมี แต่ก็ยอมเป็นหนี้เพราะอยากได้”
นิสัยที่แก้ไม่หายของเหล่านักชอปรุ่นใหม่ก็คือ การกวาดสายตาไปเห็นป้าย Sales แล้วสัญชาตญาณสั่งให้เท้าเดินเข้าไปลองเลือกซื้อสินค้านั้นทันที หรือการถูกกระตุ้นต่อมอยากด้วยเทศกาลลดราคาครั้งยิ่งใหญ่ครั้งแล้วครั้งเล่า ทำให้อยู่ดี ๆ ก็มีของที่อยากได้เต็มไปหมด ยิ่งถ้าเป็นการ Sales วันสุดท้าย รับรองได้ว่าต้องเผลอใจใช้บัตรเครดิตรูดซื้อแบบผ่อนชำระไปแน่ ๆ สุดท้ายถ้าผ่อนไม่ไหวก็กลายเป็นหนี้บัตรเครดิตท่วมหัวกันไป แต่เหตุการณ์แบบนี้จะไม่เกิดกับเราแน่ ๆ
หากวางแผนใช้จ่ายด้วย “3 Steps ฉลาดชอปให้เงินเหลือเก็บ” ดังนี้
1
ตั้งงบประมาณชอปปิงในแต่ละเดือน
อยากซื้อของก็ควรเก็บเงินซื้อ ไม่ใช่ซื้อก่อนผ่อนทีหลังไปซะทั้งหมด ทางที่ดีก็ควรวางแผนดี ๆ โดยกำหนดไว้เลยว่า ในแต่ละเดือนเรามีรายได้ค่าใช้จ่ายเท่าไหร่ ควรจะออมเงินในแต่ละเดือนมากแค่ไหน และมีภาระที่ต้องผ่อนชำระหนี้สินอะไรอยู่บ้าง ถ้าคำนวณแล้วมีเงินที่เหลือใช้จริง ๆ ค่อยแยกออกมาเป็นเงินลั้นลาและเงินชอปปิง เช่น
20,000 บาท
50%
ค่าใช้จ่ายจำเป็น
10,000 บาท
20%
เงินออม
4,000 บาท
30%
ค่าใช้จ่ายสันทนาการ เช่น สังสรรค์ ท่องเที่ยว และชอปปิง
6,000 บาท
2
คิดก่อนซื้ออยู่เสมอ
ในการซื้อของแต่ละครั้งควรถามตัวเองก่อนว่า สิ่งที่จะซื้อมีความจำเป็นมั้ย มีของเหล่านี้อยู่แล้วหรือไม่ กรณีที่เราตัดสินใจซื้อก็ควรเปรียบเทียบคุณภาพของสินค้าและราคาก่อนตัดสินใจซื้อ เพื่อให้เราสามารถใช้ของได้อย่างคุ้มค่าและยาวนาน เพราะหากเราซื้อของทุกอย่างที่อยากได้อาจทำให้เกิดปัญหาการเงินในอนาคตได้ ดังนั้น ถ้าอยากได้ของหลายอย่างก็ควรคำนวณงบประมาณ ว่าเพียงพอหรือไม่ ถ้าไม่พอก็เลือกซื้อสิ่งที่อยากได้มากที่สุดก่อน และเก็บเงินสะสมเอาไว้ในเดือนต่อ ๆ ไปเพื่อซื้อสิ่งที่อยากได้เพิ่มเติม
ที่สำคัญคือ ต้องคอยหักห้ามใจไม่ซื้อของตามแรงกระตุ้น ทั้งโปรโมชันลดแลกแจกแถมหรือแรงเชียร์จากคนรอบข้าง เพราะเราอาจได้สินค้าที่เกินความจำเป็น และเสียเงินไปอย่างเปล่าประโยชน์
หรือหากต้องการควบคุมค่าใช้จ่ายของตัวเองไม่ให้เกินงบประมาณที่ตั้งไว้ในเดือนนี้ ก็อาจใช้วิธีทิ้งบัตรเครดิตไว้ที่บ้าน เพราะส่วนมากเราก็มักจะเก็บเงินสดไว้กับตัวเพียงเล็กน้อย แล้วใช้บัตรเครดิตในการซื้อของได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ดังนั้น พยายามสร้างนิสัยการใช้จ่ายใหม่ด้วยการใช้เงินสดแทนการรูดปรื๊ด ๆ ก็น่าจะช่วยให้เราไม่ชอปปิงเพลินจนเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ได้
3
เช็คโปรโมชันก่อนซื้อ
การซื้อของโดยไม่ได้เช็คข้อมูลประชาสัมพันธ์และสินค้าที่ร่วมรายการลดราคาเลย ก็อาจจะทำให้เราเสียโอกาสได้ ลองเช็คโปรโมชันจากบัตรเครดิตต่าง ๆ รวมถึงกิจกรรมของห้างสรรพสินค้าหรือแหล่งชอปปิงออนไลน์ต่าง ๆ เผื่อเราจะได้รับส่วนลดที่น่าสนใจและทำให้ลดค่าใช้จ่ายในการซื้อสินค้าที่อยากได้มากขึ้น
 |
|
การเป็นนักชอปปิงที่ชาญฉลาดนั้น ควรรู้จักการวางแผนการเงินที่ดี รู้จักแบ่งค่าใช้จ่ายกับเงินออมให้แยกออกจากกัน และกำหนดเงินงบประมาณสำหรับชอปปิงในแต่ละเดือน เพื่อนำไปเลือกซื้อของและใช้จ่ายอย่างสมเหตุสมผล รวมถึงหาข้อมูลโปรโมชันดี ๆ ที่จะช่วยให้เราใช้จ่ายได้อย่างคุ้มค่ามากยิ่งขึ้น หากเราวางแผนทุกอย่างไว้อย่างดีแล้ว แน่นอนว่าทุกคนสามารถเป็นนักชอปปิงที่ยังมีเงินออมได้อย่างสบาย ๆ แน่นอน
ความรู้แนะนำ
เนื้อหาที่ี่เกี่ยวข้อง