อยากมีเงินใช้หลังเกษียณ ต้องมีเงินลงทุนเท่าไร

โดย รุจิพรรณ พรรัตนพิทักษ์ ผู้เชี่ยวชาญการวางแผนเกษียณ ช่องยูทูป AnnuityMAN
TSI_Article_FL_096_อยากมีเงินใช้หลังเกษียณ ต้องมีเงินลงทุนเท่าไร_Thumbnail
Highlight

ความใฝ่ฝันของคนในวัยเกษียณ คือ การมีเงินใช้จ่ายอย่างเพียงพอไปจนถึงวันสุดท้ายของชีวิต แต่เพื่อให้ฝันเป็นจริงได้ ต้องวางแผนการเงินอย่างเป็นขั้นตอนและมีวินัย ตั้งแต่การตั้งคำถามว่า อยากมีเงินใช้หลังเกษียณ ต้องมีเงินลงทุนเท่าไหร่ ? หรือเพื่อให้มีเงินใช้จ่ายหลังเกษียณไปตลอด ควรถอนเงินออกมาเพื่อใช้จ่ายในปีแรกเป็นจำนวนเท่าไหร่ ? คำถามเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องคิดเมื่อวางแผนเกษียณ และที่สำคัญต้องคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อด้วยเสมอ เพราะเงินเฟ้อทำให้มูลค่าของเงินในอนาคตลดลง

หากเอ่ยถึงความใฝ่ฝันทางด้านการเงินของคนวัยเกษียณ หนีไม่พ้นการนำเงินก้อนสุดท้ายไปลงทุนเพื่อสร้างรายได้ แล้วนำมาใช้จ่ายอย่างสบายใจและไม่ต้องกังวลว่าเงินจะหมดก่อนวันสุดท้ายของชีวิต ที่สำคัญค่าใช้จ่ายจะมาจากผลตอบแทนที่เกิดจากการลงทุนโดยที่ไม่แตะเงินต้นเลยแม้แต่บาทเดียว ซึ่งการที่จะทำให้ฝันเป็นจริงได้ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขที่สำคัญ คือ ลงทุนแล้วได้รับผลตอบแทนไม่น้อยกว่าการวางแผนการเงินก่อนวันเกษียณ

 

ตัวอย่าง

นายเกษียณสุข อยากมีเงินใช้หลังเกษียณเดือนละ 20,000 บาท (ปีละ 240,000 บาท) อยากทราบว่าต้องมีเงินเก็บเพื่อเกษียณจำนวนเท่าใด ถ้าคิดว่าจะสามารถหาผลตอบแทนจากการลงทุนหลังเกษียณได้ 6% ต่อปี

 

โดยส่วนใหญ่จะคำนวณด้วยการนำจำนวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณต่อปีหารด้วยอัตราผลตอบแทน ดังนั้น จากตัวอย่าง นายเกษียณสุขต้องมีเงินเก็บเพื่อเกษียณ 4,000,000 บาท (240,000 หาร 6%) อย่างไรก็ตาม วิธีคำนวณดังกล่าวมีข้อสังเกต ดังนี้

  • เป็นจำนวนเงินเก็บเพื่อเกษียณที่ใช้ได้สำหรับการสร้างกระแสเงินสดแบบปลายงวด หมายความว่า นายเกษียณสุข ต้องรอเวลาให้ผ่านไปก่อน 1 งวด (เช่น 1 ปี) จึงจะสามารถมีเงินก้อนแรกออกมาใช้จ่ายได้ ทั้ง ๆ ที่การวางแผนการเงินเพื่อเกษียณควรต้องเป็นต้นงวด คือ มีกระแสเงินสดออกมาให้ใช้จ่ายทันทีที่เกษียณ
  • ไม่มีการกล่าวถึงอัตราเงินเฟ้อ ซึ่งเป็นความเสี่ยงหลังเกษียณที่สำคัญ การวางแผนเกษียณที่ไม่คำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ อาจเป็นการวางแผนเกษียณที่ยังไม่สมบูรณ์ ดังนั้น ควรคำนวณ ดังนี้

TSI_Article_FL_096_01

         D คือ จำนวนเงินที่ต้องการใช้หลังเกษียณต่อปี

            i คือ ผลตอบแทนการลงทุนหลังเกษียณ

            g คือ อัตราเงินเฟ้อต่อปี

 

ดังนั้น หากเพิ่มอัตราเงินเฟ้อเป็น 3% ต่อปี และแทนค่าตัวแปรอื่น เท่ากับ D = 240,000 บาท i = 6% และ g = 3%

TSI_Article_FL_096_02

จะเห็นได้ว่า เมื่อปรับปรุงเงื่อนไขให้สอดคล้องกับความเป็นจริง ด้วยการเพิ่มปัจจัยเงินเฟ้อ จะทำให้จำนวนเงินเก็บเพื่อเกษียณเปลี่ยนไป ในกรณีนี้ นายเกษียณสุขต้องเก็บเงินเพื่อเตรียมไว้ใช้หลังเกษียณเป็นจำนวน 8,480,000 บาท มากขึ้นกว่าเดิม 2 เท่า ทำให้เป้าหมายทางการเงินเปลี่ยนไปอย่างมีนัยสำคัญ ดังนั้น การวางแผนและเตรียมตัวเกษียณไว้ตั้งแต่เนิ่น ๆ และคำนึงถึงอัตราเงินเฟ้อ จึงเป็นสิ่งสำคัญ

 

ตัวอย่าง

นางสาวสุขใจ ตั้งใจเกษียณอายุภายในปีนี้ และคาดว่าจะมีเงินเก็บเพื่อเกษียณประมาณ 8,450,000 บาท อยากทราบว่าควรถอนเงินออกมาเพื่อใช้จ่ายในปีแรกเป็นจำนวนเท่าใด หากคาดว่าจะนำเงินเก็บดังกล่าวไปลงทุนแล้วได้ผลตอบแทนเฉลี่ย 4% ต่อปี และประเมินอัตราเงินเฟ้อไว้ที่ 2.5% ต่อปี

TSI_Article_FL_096_03

ดังนั้น นางสาวสุขใจ ควรถอนเงินออกมาเพื่อใช้จ่ายในปีแรกเป็นจำนวน 121,875 บาท และถอนเงินเพิ่มขึ้นทุกปี ๆ ละ 2.5% เช่น ปีที่ 2 ควรถอนเงินจำนวน 124,921.87 บาท (121,875 x 1.025)

 

การวางแผนการเงินเพื่อให้มีใช้จ่ายอย่างสบายใจหลังเกษียณ นอกจากต้องเริ่มต้นเก็บเงินอย่างเป็นขั้นตอนและมีวินัยตั้งแต่อายุน้อย ๆ ก็ยังต้องคำนึงถึงปัจจัยที่จะส่งผลกระทบต่อมูลค่าเงินในอนาคตด้วย โดยเฉพาะอัตราเงินเฟ้อ เพราะไม่ว่าจะประเมินค่าใช้จ่ายในวัยเกษียณไว้เดือนละเท่าไหร่ แต่ทั้งหมดเป็นเพียงแค่ค่าใช้จ่ายในปัจจุบัน ที่ยังไม่ได้เผื่อใจไว้สำหรับเงินเฟ้อ เพราะเงินเฟ้อเป็นตัวการสำคัญที่ทำให้มูลค่าของเงินลดลง


สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้เทคนิคการเพิ่มเงินออม และวิธีการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวเพื่อเป้าหมายเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ผ่าน e-Learning หลักสูตร “วางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่ 

หรือสนใจ เรียนรู้เทคนิคและวิธีการบริหารจัดการเงินหลังเกษียณ เพื่อเตรียมพร้อมก้าวสู่ชีวิตหลังเกษียณอย่างมีความสุข สามารถเรียนรู้เพิ่มเติม ผ่าน e-Learning หลักสูตร “วางแผนการเงินหลังเกษียณ สไตล์วัยเก๋า” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่ 



บทความที่เกี่ยวข้อง