“มีเงินแสน” คือ หนึ่งในเป้าหมายที่วัยรุ่นหลายคนฝันไว้ เพราะเป็นจำนวนเงินที่ไม่มากหรือน้อยเกินไป และน่าจะสามารถทำได้จริง หากมีการวางแผนที่ชัดเจน และมีวินัยในการออมอย่างต่อเนื่อง
หากเรามีระยะเวลาในการออมเงิน 4 ปี (ตั้งแต่เริ่มเรียนปี 1 – จบปี 4) ก็ลองคำนวณแบบง่าย ๆ โดยเอาเงิน 100,000 บาท หารด้วย 4 ปี ก็เท่ากับว่า เราต้องออมเงินให้ได้ปีละ 25,000 บาท คิดเป็นประมาณ 2,083 บาท/เดือน หรือ 70 บาท/วัน ซึ่งก็ดูจะมีความเป็นไปได้ หากเราวางแผนจัดสรรรายได้และค่าใช้จ่ายในแต่ละเดือนไว้ล่วงหน้าให้ชัดเจนว่า จะออมเท่าไร กินเท่าไร ใช้จ่ายจำเป็นอื่น ๆ เท่าไร เช่น เงินออม 20% ค่าใช้จ่ายทั่วไปในชีวิตประจำวัน 60% และค่าใช้จ่ายสำหรับความสุขในชีวิต 20% แต่ถ้าคิดว่ายังไม่สามารถเก็บเงินได้มากขนาดนี้ ลองมาดู 5 เคล็ดลับออมเงินไม่ให้ก้นกระปุกรั่ว เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายกันเถอะ!!!
โดยเริ่มตั้งเป้าหมายระยะสั้นก่อน เพราะหากทำได้สำเร็จ ก็จะช่วยสร้างกำลังใจให้เราสามารถออมเงินตามแผนในระยะยาวได้ เช่น เปลี่ยนเป้าหมายจากออมเงินเดือนละ 2,000 บาท เป็นสัปดาห์ละ 500 บาท โดยปรับลดค่าอาหารหรือของว่างในแต่ละวัน ไม่แน่ว่า... เราอาจจะเห็นเงินออมที่เยอะขึ้นจากการลดค่าใช้จ่ายที่ไม่จำเป็นที่เพิ่งสังเกตเห็นในแต่ละวันก็เป็นได้ เพียงแค่เราตั้งเป้าหมายและมีวินัยปฏิบัติตามแผนที่วางไว้ ก็จะทำให้ก้าวเข้าใกล้ความสำเร็จอีกก้าวแล้ว
แบ่งเงินตามจำนวนที่ได้มีการวางแผนเอาไว้ออกมาออมก่อน จากนั้นค่อยนำเงินส่วนที่เหลือไปจัดสรรเป็นค่าใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
เคยมั้ยที่รู้สึกว่า “จริง ๆ เราก็ไม่ค่อยได้ใช้เงินอะไรนะ แต่ทำไมเงินหมดเร็วมาก ๆ” การจัดทำบัญชีรายรับรายจ่ายจะทำให้เราตระหนักได้ว่าในแต่ละวัน การใช้จ่ายเงินส่วนใหญ่หมดไปกับอะไร และเมื่อจดไปสักพักจะทำให้สามารถบริหารจัดการเงินได้เป็นระบบมากยิ่งขึ้น เริ่มจดบันทึกรับจ่าย ด้วย Happy Money Application คลิก
แน่นอนว่าข้อนี้น่าจะเป็นข้อปราบเซียนสำหรับหลาย ๆ คน เพราะถึงแม้ว่าเราจะมีการวางแผนที่ดีแล้ว แต่ก็ย่อมมีโอกาสหลวมตัวไปกับสิ่งเย้ายวนใจ เช่น ชานมไข่มุก กาแฟ ขนมขบเคี้ยว ซึ่งถ้าเราสามารถลดค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ได้ ก็จะประหยัดค่าใช้จ่ายไปได้อีกเยอะ แถมยังมีสุขภาพที่ดีขึ้นอีกด้วย
เช่น การทำ Challenge เก็บเงินกับเพื่อน การเก็บแบงค์ 50 การเก็บเงินตามวันที่ (วันที่ 1 เก็บ 1 บาท...และเก็บไปเรื่อย ๆ จนถึงวันที่ 30) หรือการเก็บเงินทุก 10% ของค่าใช้จ่ายในแต่ละวัน เป็นต้น การทำ Challenge เก็บเงิน นอกจากจะทำให้จำนวนเงินออมเพิ่มขึ้น ยังทำให้เรารู้สึกสนุกกับการเก็บเงินมากขึ้นด้วย
เมื่อเรามีเป้าหมายที่ชัดเจน มีแนวทางที่จะทำให้เก็บออมเงินได้แล้ว แต่รู้ไหมว่า... ยังมีอีกวิธีที่จะทำให้เราบรรลุเป้าหมายเงินแสนนั้นได้ง่ายหรือเร็วขึ้น นั่นก็คือ การเพิ่มค่าให้เงินออมของเราด้วย “การลงทุน” จากตัวอย่างในตารางข้างล่างนี้ จะเห็นว่าการออมเงินและลงทุนในทางเลือกที่แตกต่างกัน มีโอกาสได้รับผลตอบแทนแตกต่างกัน ซึ่งจะส่งผลต่อจำนวนเงินที่ต้องออมต่อเดือนมากน้อยต่างกันไป และยิ่งกว่านั้น ถ้าลงทุนในช่วงเวลาที่เหมาะสม สภาวะการลงทุนเป็นขาขึ้น ก็อาจมีโอกาสได้รับผลตอบแทนมากกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ แต่ก็ต้องระวังเรื่องความเสี่ยงจากการลงทุนด้วยเช่นกัน
เป้าหมายเงินแสน เป็นเหมือนเป้าหมายแรกในการเก็บเงินของใครหลายคน ถ้าเราสามารถทำเป้าหมายนี้ได้สำเร็จตั้งแต่ตอนเรียน ก็เชื่อได้เลยว่า... ในอนาคตไม่ว่าจะเป็นเป้าหมายการเงินที่ใหญ่ขนาดไหน ก็จะสามารถทำได้อย่างแน่นอน เพราะเราได้ฝึกวินัยในการเก็บออมและใช้จ่าย อีกทั้งยังได้สั่งสมประสบการณ์ในการลงทุนมาแล้ว ดังนั้น ไม่ว่าจะเป้าหมายไหน ๆ ขอแค่ตั้งใจ ก็ไม่ไกลเกินความสามารถของเรา
อยากรู้มั้ย... ต้องออมเงินเท่าไหร่เพื่อบรรลุเป้าหมาย งั้นลองมาคำนวณดูสิ คลิก
บทความที่เกี่ยวข้อง