เด็กกับผู้สูงวัย เลือกซื้อประกันสุขภาพอย่างไรดี

วัยเด็ก คือ ช่วงอายุตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี เป็นช่วงที่ร่างกายมีภูมิคุ้มกันที่ยังไม่แข็งแรง ทำให้มีโอกาสเจ็บป่วย ไม่สบายได้ง่าย แต่พอเริ่มโตขึ้นจนถึงอายุประมาณ 7 ปี การเจ็บป่วยจะเริ่มลดลงตามการเติบโตและมีภูมิคุ้มกันที่แข็งแรงขึ้น ดังนั้น ช่วงที่ต้องเฝ้าระวังเพราะมีโอกาสที่จะต้องเสียค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลสูง คือ ในช่วง 6 ปีแรก 

ในทางกลับกันพอเริ่มมีอายุมากขึ้น โรคภัยก็จะเพิ่มสูงขึ้น เริ่มจากช่วงอายุประมาณ 45 ปีขึ้นไป ทำให้ต้องใช้เงินในการรักษาสุขภาพเพิ่มมากขึ้น บางคนอาจต้องใช้เวลาและค่าใช้จ่ายในการรักษาไปตลอดชีวิต และที่สำคัญในช่วง 2 ปีสุดท้ายของชีวิตจะเป็นช่วงที่มีค่าใช้จ่ายในการรักษาพยาบาลที่สูงมาก

การซื้อประกันสุขภาพควรพิจารณาให้ครบทั้งการรักษาแบบผู้ป่วยในและผู้ป่วยนอก ควรต้องมีงบประมาณในการรักษาให้พอเพียงกับค่ารักษาพยาบาลในแต่ละครั้ง โดยพิจารณาจากช่วงอายุ โรคที่เป็น โรงพยาบาลที่ต้องการจะไปรักษา ค่าใช้จ่ายในการรักษาแต่ละครั้ง ค่าห้อง ค่าแพทย์ เป็นต้น

ความคุ้มครองในช่วงวัยเด็กควรมีตั้งแต่แรกเกิดและมีความคุ้มครองต่อไปเรื่อย ๆ จนโต ส่วนผู้สูงวัยควรมีประกันสุขภาพตั้งแต่ก่อนอายุ 45 ปี เพราะหากตรวจพบว่าเจ็บป่วยมีประวัติในการเข้ารับการรักษามาก่อนที่จะตัดสินใจซื้อประกันสุขภาพ อาจส่งผลให้ไม่สามารถซื้อประกันได้ หรือถ้าซื้อได้ก็อาจไม่คุ้มครองในโรคที่ตรวจพบก่อนที่จะมาซื้อประกัน

ค่าเบี้ยประกันจะแพงในช่วงตั้งแต่แรกเกิดจนถึงอายุ 6 ปี และจะปรับลดลงในช่วงอายุที่เพิ่มขึ้น แต่ผู้สูงวัยค่าเบี้ยประกันจะปรับเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะช่วงอายุ 65 ปีขึ้นไป จะมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาสุขภาพที่เพิ่มสูงขึ้น ดังนั้น ผู้สูงวัยควรต้องมีประกันคุ้มครองโรคร้ายแรง เพราะเป็นโรคที่ต้องใช้เงินจำนวนมากในการดูแลรักษา นอกจากนี้ทั้งสองวัยควรซื้อประกันอุบัติเหตุควบคู่ด้วย เพราะในทั้งสองวัยนี้มีโอกาสที่จะเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายและจะมีค่าใช้จ่ายในการรักษาที่ค่อนข้างสูงเช่นกัน

การมีประกันสุขภาพสามารถจัดเป็นตัวช่วยที่ดีในการดูแลรักษาสุขภาพยามเจ็บป่วย ดังคำกล่าว “เจ็บป่วยให้ประกันช่วยจ่าย” และยังเป็นการบริหารความเสี่ยงทางด้านการเงินเพื่อไม่ให้กระทบกับเป้าหมายทางการเงินด้านอื่น ๆ ที่ได้วางแผนเอาไว้ แต่ทั้งนี้ก็ควรพิจารณาเลือกซื้อแบบและความคุ้มครองให้เหมาะสมกับรายได้ด้วย