ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายก็เหมือนการรับประทานอาหารแบบบุฟเฟต์ คือ บริษัทที่รับประกันจ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลให้ผู้เอาประกันในกรณีที่เจ็บป่วยตามทุนประกันที่ได้เลือกแผนประกันไว้ จึงมีหลายคนที่สนใจเลือกซื้อแบบเหมาจ่าย แต่ก่อนตัดสินใจซื้อควรพิจารณาข้อมูลให้ละเอียดก่อน
เบี้ยประกันแบบเหมาจ่ายจะมีค่าเบี้ยสูงกว่าการเลือกซื้อสัญญาแนบท้ายประกันชีวิตแบบแยกซื้อ แต่ข้อดีของประกันแบบเหมาจ่าย คือ ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาลทั้งผู้ป่วยนอกและผู้ป่วยใน การเคลมทำได้ง่าย และสะดวก แผนความคุ้มครองไม่ซับซ้อน ดังนั้น ผู้ที่ต้องการซื้อประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายต้องยอมเสียเบี้ยประกันที่แพง
ส่วนความคุ้มครองสุขภาพแบบซื้อแยก สามารถเลือกแผนตามที่ต้องการ ไม่ต้องซื้อหมดทุกรายการ เพราะอาจจะไม่ต้องการความคุ้มครองก็ได้
ถึงจะเป็นประกันสุขภาพแบบเหมาจ่าย แต่จะมีข้อจำกัดของวงเงินค่าใช้จ่ายบางอย่าง เช่น ค่าห้องพัก ดังนั้น ต้องพิจารณาค่าใช้จ่ายด้านห้องพักในโรงพยาบาลที่คาดว่าจะเข้ารับการรักษาเมื่อยามเจ็บป่วยด้วยว่า เพียงพอกับค่าใช้จ่ายหรือไม่
สำหรับพนักงานประจำที่มีสวัสดิการทางด้านการรักษาพยาบาล ให้พิจารณาความคุ้มครองที่ได้รับว่าเพียงพอกับค่ารักษาพยาบาลเมื่อเจ็บป่วยหรือไม่ ถ้าไม่เพียงพออาจจะต้องมองหาประกันสุขภาพเพิ่มเติม และเมื่ออายุมากขึ้น เช่น 40 ปี ควรวางแผนพิจารณาซื้อประกันสุขภาพให้ตัวเองหลังเกษียณด้วย เพราะหลังเกษียณจะไม่มีสวัสดิการด้านการรักษาพยาบาลจากบริษัทอีกต่อไป
ประกันสุขภาพแต่ละประเภทมีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ต่างกัน ถ้าต้องการความคุ้มครองที่ครอบคลุมเยอะ ๆ เข้าใจได้ง่าย ไม่ยุ่งยากในการเคลม แต่ต้องจ่ายเบี้ยสูง ๆ ประกันสุขภาพแบบเหมาจ่ายถือเป็นทางเลือกสำหรับคนไทยในปัจจุบัน
สำหรับใครที่สนใจเรียนรู้แนวทางวางแผนการเงินเพื่อเป้าหมายชีวิต และการใช้เครื่องมือทางการเงินต่าง ๆ ในการสำรวจสถานะทางการเงินของตนเอง สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “WMD1002 : ชีวิตดี เริ่มต้นที่การวางแผน” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง