ผลการสำรวจในหลาย ๆ สถาบัน พบว่า คนเราจะมีสุขภาพร่างกายแข็งแรงและมีอายุยืนยาวมากขึ้นจากการพัฒนาด้านเทคโนโลยีการรักษาสุขภาพ หรือไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่หันมาใส่ใจเรื่องสุขภาพมากขึ้น สิ่งที่ตามมา คือ เงินที่ต้องเตรียมไว้ใช้หลังเกษียณที่จะมากขึ้นตามไปด้วย
ปัจจุบันเครื่องมือสำหรับวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณมีหลากหลาย เช่น หากคุณเป็นข้าราชการ สามารถออมเงินในรูปแบบกองทุนบำเหน็จบำนาญข้าราชการ หากคุณทำงานอยู่ในบริษัทเอกชน สามารถออมเงินผ่านกองทุนประกันสังคม กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ แต่ถ้าหากคุณประกอบอาชีพอิสระ สามารถออมเงินผ่านกองทุนการออมแห่งชาติ (กอช.)
นอกจากนี้ ทุกกลุ่มอาชีพสามารถวางแผนการเงินเพื่อวัยเกษียณ ผ่านการลงทุนในกองทุนรวมทั่วไป กองทุน SSF (Super Saving Fund) และ กองทุน RMF (Retirement Mutual Fund) รวมถึงลงทุนในหุ้นโดยตรง
เช่นเดียวกัน การทำประกันชีวิตเริ่มมีบทบาทในการวางแผนเกษียณด้วย เพราะประกันชีวิตบางประเภทถูกออกแบบมาเพื่อการเกษียณโดยตรงเช่น “ประกันแบบบำนาญ” ที่มีความโดดเด่นในเรื่องการคืนเงินให้ผู้เอาประกันเป็นประจำทุกรอบเวลาที่ตกลงตามเงื่อนไขประกันภายหลังหยุดชำระเบี้ยแล้ว เสมือนมีรายได้คงที่ต่อเนื่องถึงแม้ว่าจะอยู่ในช่วงที่เกษียณอายุแล้วก็ตาม ข้อดีของประกันแบบบำนาญ คือ
ในการวางแผนเกษียณอายุ จะเห็นได้ว่าประกันชีวิตแบบบำนาญมีประโยชน์ คือ นอกจากจะช่วยให้มีเงินรายได้ที่บริษัทประกันจ่ายให้แน่นอนในทุกปี โดยไม่ต้องกังวลกับความเสี่ยง และระหว่างทางยังได้สิทธิลดหย่อนภาษีสูงสุดถึง 200,000 บาท
การออมเงินผ่านประกันแบบบำนาญ นับเป็นเครื่องมือสำคัญที่จะช่วยให้มีวินัยออมเงินในระยะยาว เพราะการทำประกันเป็นการเตือนให้ต้องออมเงิน และหากมีเหตุไม่คาดฝัน เงินออมก็จะไม่หายหรือขาดทุน และมีความคุ้มครองชีวิตให้ตลอดทางระหว่างออมอีกด้วย
สำหรับใครที่สนใจอยากเรียนรู้เทคนิคการเพิ่มเงินออม และวิธีการสะสมความมั่งคั่งในระยะยาวเพื่อเป้าหมายเกษียณ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “วางแผนเกษียณ สไตล์มนุษย์เงินเดือน” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง