“การมีหนี้สินไม่ใช่ตราบาปในชีวิต โดยเฉพาะอย่างยิ่งถ้าเป็นหนี้ที่ดีที่เกิดจากการศึกษาหาความรู้ ยิ่งไม่ใช่หนี้ที่เป็นเรื่องน่าอาย แต่ยังไงก็ต้องวางแผนจัดการ เพื่อให้ใช้ชีวิตได้อย่างสบายใจไร้กังวล”
หลายคนมีหนี้สินติดตัวตั้งแต่ตอนที่เรียนจบ เพราะตอนที่เรียนอยู่เคยกู้ยืม กยศ. หรือ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา ดังนั้น เมื่อเรียนจบ มีงานทำ มีรายได้เป็นของตัวเองแล้ว ก็ถึงเวลาที่ต้องเริ่มวางแผนชำระหนี้คืน โดย กยศ. จะมีข้อกำหนดในการชำระหนี้ คือ มีระยะเวลาปลอดหนี้ 2 ปี หลังเรียนจบ ผู้กู้สามารถเริ่มชำระหนี้ได้ในปีที่ 3 โดยมีอัตราดอกเบี้ยเพียง 1% ต่อปี แต่หากเรายังไม่มีงานทำหรือไม่มีรายได้เพียงพอที่จะชำระหนี้ ก็สามารถทำเรื่องขอผ่อนผันหนี้ได้ และเมื่อมีรายได้มากพอ
ก็สามารถผ่อนชำระหนี้ กยศ. ได้ภายในระยะเวลา 15 ปี ลองมาดู 4 ขั้นตอนวางแผนจ่ายหนี้ กยศ. กันดีกว่า
เพื่อให้วางแผนจัดสรรเงินชำระหนี้ให้ง่ายขึ้น และรู้ว่าต้องชำระหนี้ในแต่ละงวดเป็นจำนวนเท่าไร โดยอัตราดอกเบี้ยจะอยู่ที่ 1% ต่อปี (ยกเว้นปีแรกไม่ต้องเสียดอกเบี้ย) จากยอดเงินกู้คงเหลือ และหากมีการผิดนัดชำระหนี้ จะมีเบี้ยปรับหรือค่าธรรมเนียม ซึ่งคิดจากยอดเงินที่ค้างชำระในแต่ละปีที่ 7.5% ต่อปี อย่างไรก็ตาม กยศ. อาจมีมาตรการช่วยเหลือและให้โอกาสผู้กู้ยืมเงินที่ได้รับผลกระทบทางเศรษฐกิจจากสถานการณ์ต่าง ๆ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
ซึ่งจริง ๆ แล้วเราก็ไม่ต้องลำบากคำนวณเอง เพราะทาง กยศ. จะให้ตารางสรุปมาว่า... ในแต่ละปีเราต้องชำระเงินเป็นจำนวนเท่าไร โดยจะมีการคำนวณเงินต้น ดอกเบี้ย และจำนวนเงินกู้ในแต่ละปีมาให้เราดูเป็นแบบขั้นบันได นั่นก็คือเริ่มจากจำนวนเงินน้อย ๆ ในช่วงแรก และจะจ่ายแพงขึ้นในปีถัด ๆ มา ตามรายได้ที่คาดว่าจะเพิ่มขึ้น โดยในปัจจุบันเพื่อเพิ่มความสะดวกให้กับผู้กู้ เราสามารถเข้าไปตรวจสอบยอดหนี้ด้วยตัวเองทางแอปพลิเคชัน “กยศ. Connect” และสามารถชำระหนี้ได้หลากหลายช่องทาง ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
มีข้อดีและข้อเสียดังนี้
โดยแยกเงินส่วนที่ต้องจ่ายหนี้ กยศ. แต่ละงวดออกมาจากรายได้ ซึ่งวิธีการนี้ต้องมีวินัยและความตั้งใจจริงในการเก็บเงิน เพราะต้องหักห้ามใจตัวเองไม่ให้นำเงินส่วนนี้ไปใช้จ่าย ทางที่ดี คือ เมื่อเงินเดือนออก ก็ควรหักไปจ่ายชำระหนี้เลย แล้วเหลือเท่าไหร่ถึงเอาไปใช้จ่าย สำหรับคนที่อยู่ในองค์กรภาครัฐหรือเอกชน หากต้องการให้องค์กรหักเงินชำระหนี้จากเงินเดือนไปเลย ก็สามารถทำได้ โดยต้องแจ้งสถานะการเป็นผู้กู้ยืมให้นายจ้างทราบ และให้นายจ้างหักเงินเดือนตามจำนวนที่ กยศ. แจ้ง เพื่อชำระคืนกองทุน ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
เช่น ตกงานกระทันหัน ทำให้ไม่มีรายได้ หรือรายได้ไม่เกินเดือนละ 8,008 บาท หรือเป็นผู้ประสบภัยพิบัติต่าง ๆ รวมถึงคนที่มีความจำเป็นต้องดูแลคนในครอบครัวที่ชราภาพ ป่วย หรือพิการ ซึ่งจะสามารถผ่อนผันได้ไม่เกิน 2 ครั้ง ๆ ละไม่เกิน 1 ปี ซึ่งในช่วงเวลาที่ได้รับการผ่อนผัน ผู้กู้จะไม่ต้องชำระหนี้ทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย โดยที่ไม่เสียเบี้ยปรับและค่าธรรมเนียมในการผิดนัดชำระหนี้ ศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม คลิก
จะเห็นว่า... การวางแผนการชำระหนี้ กยศ. นั้น สามารถทำได้ไม่ยากเลย เพราะมีตัวเลือกในการชำระหนี้ที่เหมาะสมกับการวางแผนจัดสรรรายได้ของเรา ไม่ว่าจะเป็นแบบรายเดือนหรือรายปี รวมถึงช่องทางในการชำระเงินที่สะดวกและหลากหลาย เพียงแต่เราต้องสร้างวินัยในการเก็บเงินให้ดี และคิดไว้เสมอว่าในเมื่อเราเคยเป็นคนหนึ่งที่ได้รับโอกาส เราก็ควรจะชำระหนี้ให้หมดตามกำหนด เพื่อช่วยเพิ่มโอกาสในการกู้ยืมเงิน กยศ. ให้กับผู้ที่มีความต้องการกู้รายอื่น ๆ เป็นการต่อยอดโอกาสนั้นให้กับเยาวชนรุ่นหลังให้ได้รับเช่นที่เราเคยได้รับ
สำหรับใครที่สนใจอยากรู้แนวทางในการวางแผนบริหารจัดการหนี้ เพื่อให้มีเงินเหลือใช้ และสามารถเก็บออมเพื่อสร้างความมั่นคงในชีวิตได้ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “วางแผนลดหนี้มีออม สำหรับบัณฑิตยุคใหม่” ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง