การทำงานอิสระในรูปแบบฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers นอกจากมีความท้าทายในเรื่องของการบริหารเวลาและจัดสรรทรัพยากรให้เพียงพอต่อการทำงานหลายอย่างแล้ว อีกปัจจัยสำคัญที่ส่งผลอย่างมากต่อความสำเร็จ ก็คือ การบริหารจัดการเงิน
ความไม่แน่นอนของรายได้ ถือเป็นธรรมชาติของอาชีพอิสระ เนื่องจากไม่มีเงินเดือนประจำเข้ามาในแต่ละเดือนเหมือนพนักงานประจำ พูดง่าย ๆ การได้งานและค่าตอบแทนจะถูกกำหนดตามปริมาณงานที่ได้รับและผลลัพธ์ที่ส่งมอบ ซึ่งอาจผันผวนตามสภาพเศรษฐกิจ กระแสความนิยม หรือความต้องการของตลาด และปัจจัยอื่น ๆ อีกมากมาย โดยเฉพาะอย่างยิ่งผู้ที่มีรายได้จากหลายแหล่ง ซึ่งแต่ละงานก็มีลักษณะการจ่ายค่าตอบแทนที่แตกต่างกัน บางงานอาจให้ผลตอบแทนเป็นรายชิ้นงาน บางงานจ่ายเป็นรายวันหรือรายชั่วโมง บางงานจ่ายเป็นงวด หรือบางงานให้ส่วนแบ่งจากผลกำไร การทำความเข้าใจลักษณะของรายได้เหล่านี้และวางแผนการเงินให้สอดคล้องกันจึงเป็นเรื่องที่ท้าทายอย่างยิ่ง
หากใช้จ่ายเงินไปตามใจโดยไร้การจัดการควบคุม โอกาสที่ชาวฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers จะประสบปัญหาขาดสภาพคล่องหรือไม่มีเงินเก็บไว้ใช้จ่าย โดยเฉพาะในยามฉุกเฉินย่อมเกิดขึ้นได้ง่าย ดังนั้น เครื่องมือสำคัญที่จะช่วยป้องกันปัญหา คือ การประมาณการรายรับรายจ่ายและการติดตามผลของประมาณการอย่างสม่ำเสมอ
การทำประมาณการรายรับรายจ่ายของชาวฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers ไม่ใช่เรื่องยาก โดยเริ่มจากการรวบรวมข้อมูลทางการเงินในอดีตที่ผ่านมา ทั้งรายรับจากการทำงานและการลงทุนอื่น ๆ เช่น ดอกเบี้ย เงินปันผล ค่าเช่า เป็นต้น ขณะเดียวกันก็รวบรวมรายจ่ายต่าง ๆ (รายจ่ายคงที่และผันแปร) เช่น ค่าเช่าบ้าน ค่าผ่อนรถ ค่าประกัน ค่าสาธารณูปโภค ค่าอาหาร ค่าเดินทาง ค่าใช้จ่ายส่วนตัว เป็นต้น
จากนั้นให้แยกประเภทของรายได้ตามแหล่งที่มาและช่วงเวลาในการได้รับเงิน เช่น รายได้ประจำรายเดือนจากงานพาร์ตไทม์ รายได้เป็นรายครั้งจากงานอิสระ โบนัสพิเศษจากยอดขาย ค่านายหน้าจากการแนะนำลูกค้า เป็นต้น แล้วทำการประเมินแนวโน้มรายรับที่คาดการณ์ในอนาคต พร้อม ๆ กับ พิจารณารายจ่ายแบบคงที่และผันแปร
ข้อมูลเหล่านี้จะช่วยให้ฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers สามารถจัดทำประมาณการรายรับรายจ่าย แผนกระแสเงินสดรวมในแต่ละเดือนและคาดการณ์ความเพียงพอของเงินทุนหมุนเวียนได้ ซึ่งจะเป็นประโยชน์อย่างมากในการจัดสรรเงินออมและลงทุน รวมถึงการวางแผนภาษี เพราะเงินได้จากหลายแหล่งอาจต้องเสียภาษีในอัตราที่แตกต่างกัน ซึ่งการเข้าใจโครงสร้างภาษีและเลือกใช้สิทธิประโยชน์ทางภาษีจึงเป็นอีกปัจจัยสำคัญในการบริหารจัดการเงิน
ประโยชน์ของการประมาณการรายรับรายจ่ายและการติดตามผล
ในทางกลับกัน หากมองข้ามความสำคัญของการประมาณการรายรับรายจ่ายและการติดตามประเมินผล อาจทำให้เกิดผลเสียตามมา เช่น
เครื่องมือที่ช่วยให้การประมาณการรายรับรายจ่ายและการติดตามผลทำได้ง่ายยิ่งขึ้น
หนึ่งในแอปพลิเคชันที่น่าสนใจ คือ Happy Money ที่พัฒนาโดยตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งนอกจากจะทำให้การประมาณการรายรับรายจ่ายและการติดตามผลเป็นเรื่องสะดวกและสนุกแล้ว ยังรวมเอาเครื่องมือที่เป็นประโยชน์ต่าง ๆ มากมาย ทั้งการวางแผนการออม กำหนดเป้าหมายทางการเงิน และให้ความรู้ในการบริหารจัดการเงินอย่างมีประสิทธิภาพ เหมาะสำหรับผู้ที่อยากปรับนิสัยการใช้จ่ายและเริ่มต้นออมเงินอย่างจริงจัง ใครที่สนใจดูรายละเอียดแอปพลิเคชัน Happy Money ได้ที่ >> คลิกที่นี่
สำหรับฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers ที่อยากพัฒนาทักษะด้านการจัดการเงินเพิ่มเติม สามารถเข้าไปเรียนรู้ผ่านหลักสูตรออนไลน์ (e-Learning) เรื่อง “วางแผนการเงิน และวางแผนภาษีสำหรับฟรีแลนซ์” >> คลิกที่นี่ ที่จัดทำโดยตลาดหลักทรัพย์ฯ ซึ่งมีเนื้อหาที่เข้าใจง่าย สอดคล้องกับบริบทการทำงานจริงของฟรีแลนซ์
การวางแผนการเงินที่รอบคอบอย่างมีวินัย ผ่านการประมาณการและติดตามประเมินผลอย่างสม่ำเสมอ จะเป็นภูมิคุ้มกันที่ดีให้แก่ฟรีแลนซ์และ Multi-Jobbers ในการใช้ชีวิตให้สอดคล้องกับรายได้จากหลายแหล่งที่ไม่แน่นอน เพื่อก้าวไปสู่ความมั่นคงทางการเงินและความสมดุลของชีวิตในระยะยาว เริ่มต้นเรียนรู้เพื่อวางแผนและจัดการเงินกันตั้งแต่วันนี้ เพื่ออนาคตที่สดใสในวันหน้า
บทความที่เกี่ยวข้อง