Gen Z คือคนที่เกิดช่วงปี 2541 - 2555 (ช่วงอายุ 10 - 25 ปี) ซึ่งเป็นเจนเนอเรชันที่เกิดหลัง Gen Y โดย Gen Z เป็นวัยที่ใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่บนโลกออนไลน์ สื่อสารผ่านอินเทอร์เน็ตเป็นหลัก เป็นคนกล้าคิดนอกกรอบ สามารถนำเทคโนโลยีมาผนวกรวมกับองค์ความรู้ที่มี แล้วต่อยอดสร้างเป็นอาชีพใหม่บนโลกออนไลน์ เช่น YouTuber, TikToker ขายของ Online หรือมีรายได้จากการเล่นเกม จึงเห็นวัยนี้เป็นผู้ประกอบการหน้าใหม่บนโลกออนไลน์ สามารถสร้างรายได้ตั้งแต่อายุยังน้อย หรือมีรายได้ตั้งแต่อยู่ในวัยกำลังศึกษาเล่าเรียน
เมื่อ Gen Z ออกสู่ตลาดแรงงานแล้ว มีแนวโน้มว่าชอบทำงานหลายอย่าง ยอมเปลี่ยนงานบ่อยเพื่อค้นหาสิ่งที่ใช่ และหารายได้เสริมจากสิ่งที่ชอบ ดังนั้น จึงมักมีรายได้หลายทาง ทั้งรายได้จากงานประจำและรายได้จากงานเสริม ซึ่งการมีรายได้จากหลากหลายช่องทางนั้น ยากต่อการประเมินกระแสเงินสดรับในแต่ละเดือน หากมีค่าใช้จ่ายคงที่เยอะเกินไป เช่น การผ่อนค่างวดต่าง ๆ อาจทำให้เกิดการขาดสภาพคล่องได้ในเดือนที่รายได้เสริมไม่เป็นไปตามคาดการณ์
Gen Z เป็นวัยที่สร้างรายได้ได้เร็ว กำลังซื้อจึงสูงขึ้นอย่างรวดเร็วเช่นกัน ประกอบกับความนิยมในการรับสื่อแบบสั้น ๆ เข้าใจง่าย ทำให้การตัดสินใจซื้อจึงเป็นแบบ “จ่ายเร็ว จ่ายครั้งละไม่มาก แต่จ่ายถี่ ๆ ” และมักจะจ่ายไปกับสิ่งที่ไม่ค่อยได้ใช้ ทำให้สร้างหนี้ท่วมหัวโดยไม่รู้ตัว จากข้อมูลสถิติเครดิตบูโร การเป็นหนี้ของคน Gen Z เพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงกว่าคนเจนอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น Gen Y, Gen X หรือ Baby Boomers
เหตุแห่งหนี้ของคน Gen Z คือ การใช้เงินเพลินจนเกินรายได้ที่คาดว่าจะหาได้ ที่สำคัญมักเป็นหนี้บริโภค ด้วยเหตุว่า “ของมันต้องมี” ซึ่งหนี้บริโภคเป็นหนี้ที่คนวัยนี้ไม่ควรมี
หนี้บริโภค คือ หนี้ที่เกิดจากการกู้เงินมาใช้จ่ายเพื่อการบริโภค หรือเพื่อสร้างความสุขสบายในชีวิตประจำวัน โดยลืมคำนึงถึงประโยชน์ที่แท้จริงจากการซื้อสินค้าและบริการนั้น ๆ และลืมคำนึงถึงทางเลือกอื่นที่ประหยัดกว่า เช่น การยืดระยะเวลาการเปลี่ยนรุ่นโทรศัพท์มือถือ และสินค้าเทคโนโลยีต่าง ๆ หรือการเลือกแบรนด์สินค้าที่ราคาต่ำกว่าแต่ให้อรรถประโยชน์ที่ใกล้เคียงกัน
หลุมพรางที่ Gen Z ควรระวัง เพราะอาจจะนำไปสู่การเป็นหนี้บริโภค
“ของมันต้องมี” เพราะโปรโมชันลดแรง และราคาสินค้าต่อชิ้นไม่แพง
“ของมันต้องมี” เพราะเพื่อน ๆ มี หรือต้องการตามแฟชั่น หรือต้องการเข้าสังคม หรือเพื่อความสะดวกสบาย
“ของมันต้องมี” เพราะมีนโยบายผ่อน 0%
นอกจากระวังหลุมพรางอันนำไปสู่การเป็นหนี้แล้ว คน Gen Z ควรให้ความสำคัญกับการทำบัญชีรายรับ - รายจ่าย เพื่อให้ตัวเองรู้เท่าทันการซื้อด้วยอารมณ์ และพาตัวเองให้พ้นภัยการใช้จ่ายเกินตัว
ในฝั่งรายรับ ให้แยกระหว่างรายได้แบบประจำที่ได้เท่ากันทุกเดือน กับรายได้เสริมจากแหล่งอื่น ๆ และรายได้จากการทำธุรกิจออนไลน์ออกจากกัน และควรศึกษาเรื่องภาษีบุคคลธรรมดาเพิ่มเติมด้วย เนื่องจากรายได้แต่ละประเภท มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีที่แตกต่างกัน
ส่วนฝั่งรายจ่าย ควรจดบันทึกทุกครั้งที่มีการจ่ายเงินออก โดยพยายามจัดหมวดหมู่ค่าใช้จ่าย เพื่อนำมาวิเคราะห์ว่าใช้เงินไปกับสินค้าและบริการประเภทไหนมากเกินไป เพื่อปรับปรุงการใช้จ่ายให้สมเหตุสมผลมากขึ้น และหากมีรายได้จากการประกอบธุรกิจออนไลน์ ก็ควรแยกค่าใช้จ่ายส่วนตัวและค่าใช้จ่ายทางธุรกิจออกจากกันอย่างชัดเจน
ก่อนตัดสินใจซื้อสินค้า และบริการใด ๆ ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่า “ซื้อของที่ต้องมี ระวังแถมหนี้บริโภค”
สำหรับใครที่สนใจ เรียนรู้เกี่ยวกับสินเชื่อรูปแบบต่าง ๆ การประเมินความพร้อมและสิ่งที่ควรทำก่อนก่อหนี้ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “รู้ก่อนเป็นหนี้ จะได้ไม่รู้งี้ทีหลัง” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
หรือเรียนรู้การบริหารจัดการหนี้เมื่อเริ่มมีปัญหา โดยอธิบายขั้นตอนและวิธีการแก้ไขปัญหาหนี้ด้วยตนเอง และการเจรจากับเจ้าหนี้เพื่อปรับโครงสร้างหนี้ สามารถเรียนรู้เพิ่มเติมผ่าน e-Learning หลักสูตร “เป็นหนี้แล้วจัดการยังไง” ได้ฟรี!!! >> คลิกที่นี่
บทความที่เกี่ยวข้อง