ให้สังเกตเครื่องหมาย C ต่าง ๆ ที่ห้อยท้ายหลังชื่อหุ้น ซึ่งบ่งบอกว่ามีความเสี่ยงประเภทใดอยู่บ้าง ได้แก่ ปัญหาฐานะการเงิน ปัญหาผลการดำเนินงาน ปัญหาไม่ปฏิบัติตามเกณฑ์ ปัญหาสภาพคล่อง แทนการขึ้นเครื่องหมาย C (Caution) เดิม เริ่ม 25 มีนาคม 2567 นี้
โดยจะแบ่งเป็น ดังนี้
อาทิ ส่วนของผู้ถือหุ้น (Equity) ต่ำกว่า 50% ของทุนชำระแล้ว ศาลรับคำร้องขอฟื้นฟูกิจการหรือล้มละลาย ถูกสั่งให้แก้ไขฐานะทางการเงินหรือการดำเนินงาน ขาดทุนต่อเนื่อง 3 ปี จน Equity น้อยกว่าทุนชำระแล้ว การไม่มีธุรกิจโดยมีรายได้จากการดำเนินงานต่อปี ต่ำกว่า 100 ล้านบาท (SET) และ 50 ล้านบาท (mai) รวมถึงการผิดนัดชำระหนี้กับสถาบันการเงินหรือหุ้นกู้
ทั้งนี้ หากไม่สามารถแก้ไขได้ตามกำหนด จนทำให้ Equity ติดลบ หรือรายได้จากการดำเนินงานทั้ง 3 ปี น้อยกว่าที่กำหนด จะถูกขึ้นเครื่องหมาย SP แทน และนำไปสู่การเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
ทั้งในส่วนของผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น สำนักงาน ก.ล.ต. สั่งแก้ไขงบการเงิน หรือสั่งให้ทำ Special Audit
ทั้งนี้ การที่ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น 3 ปี หรือไม่ส่งงบที่ ก.ล.ต. สั่งแก้ไข / รายงาน Special Audit เกิน 6 เดือน ก็จะถูกเปลี่ยนเป็นเครื่องหมาย SP แทน และเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
อาทิ การเป็น Cash company หรือ Audit Committee ไม่ครบเกิน 3 เดือน
ทั้งนี้ หากแก้ไขการเป็น Cash company ไม่ได้ภายใน 6 เดือน รวมถึงกรณีของ Audit Committee ไม่สามารถแก้ไขได้ภายใน 6 เดือน ก็จะถูกขึ้นเครื่องหมาย SP แทน และเข้าข่ายอาจถูกเพิกถอน
(Free Float ต้อง > 15% และ > 150 ราย) โดยจะต้องแก้ไขให้เสร็จเรียบร้อยภายใน 1 ปี หากแก้ไขไม่ได้ตามที่เกณฑ์กำหนด ก็จะถูกขึ้นเครื่องหมาย SP แทน และเพิกถอนเมื่อ SP ครบ 1 ปี
การปรับปรุงเครื่องหมายตระกูล C โดยแบ่งตามเหตุที่มาของการขึ้นเครื่องหมาย ถือเป็นเครื่องมือที่สามารถเตือนผู้ลงทุนได้อย่างทันท่วงที เพราะทันทีที่จะเคาะซื้อหุ้น หากมีเครื่องหมายดังกล่าวกำกับอยู่ท้ายชื่อหุ้น ก็จะช่วยให้ผู้ลงทุนทราบข้อมูลว่าหุ้นบริษัทนั้น ๆ กำลังมีปัญหาอะไรอยู่
ฉะนั้น ประโยชน์เหล่านี้จะเกิดขึ้นกับผู้ลงทุนทันที หากมีการศึกษาข้อมูลให้รอบด้านครบถ้วนก่อนเข้าลงทุน
หากหุ้นตัวใดก็ตามถูกขึ้นเครื่องหมายตระกูล C เหล่านี้ ผู้ลงทุนจะต้องซื้อหุ้นด้วยบัญชีแคชบาลานซ์เท่านั้น
อีกทั้ง บริษัทจะต้องจัด Public presentation ภายใน 15 วัน เพื่อชี้แจงแนวทางในการแก้ไขปัญหาให้ผู้ลงทุนทราบ และจัดต่อไปทุกไตรมาสเพื่อรายงานความคืบหน้า จนกว่าจะแก้ไขเหตุได้
ภายหลังจากตรวจพบเครื่องหมาย C ใดก็ตามที่ต่อท้ายรายชื่อหุ้น เพื่อเป็นการป้องกันความเสี่ยง ผู้ลงทุนควรเข้าไปศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมใน www.set.or.th เกี่ยวกับข่าวสารของหุ้นดังกล่าว เพื่อประเมินความเสี่ยงก่อนเข้าลงทุนทุกครั้ง
บทความที่เกี่ยวข้อง