เป็นนักลงทุนควรต้องฟังคำเตือน อาจเหมือน “จิ้งจกทัก” หากมองว่าเป็นการ ”ขัดลาภ” อาจต้องใช้สติทบทวนกันใหม่ เพราะทุกสรรพสิ่งในโลก ล้วนมีขึ้น-ลง เช่นเดียวกับการลงทุนมีความเสี่ยง Risk-Return ย่อมมาคู่กันเสมอ
เมื่อผ่านกระบวนการเลือกหุ้นแล้ว สิ่งที่เห็นเบื้องหน้า ประหนึ่งเป็น “ไฟเหลือง” บอกเตือนว่าต้องเตรียมหยุดรอ “ไฟแดง” ที่กำลังจะฉายขึ้นนั้น ย่อมดึงสติให้กลับมาทบทวนทันที อย่ามองผ่านเลย เพราะอาจเกิดเหตุไม่คาดฝันได้
ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยมีการเพิ่ม “เสียงเตือน” เมื่อมีความผิดปกติ โดยมีการแยกเป็นประเด็นปลีกย่อย เป็น 4 จุด จากเดิมที่มี เฉพาะ “C” เพียงเสียงโทนเดียว
ก่อนลงทุน ต้องเหลือบมองกันนะ ตัวย่อที่ตามมา คือ การขยายความว่า เป็นเสียงเตือน เรื่องอะไร จำง่าย ๆ ว่า เป็นอักษรต้นของเรื่องนั้นๆ
CB : มีประเด็นด้านฐานะการเงิน-Business เช่น ขาดทุนต่อเนื่อง จนส่วนของผู้ถือหุ้นน้อยกว่าทุนชำระแล้ว, ผิดนัดชำระหนี้สถาบันการเงิน/หุ้นกู้
CS : มีประเด็นด้านงบการเงิน-Financial Statement เช่น ผู้สอบบัญชีไม่แสดงความเห็น, ก.ล.ต. สั่งให้ทำ Special Audit
CC : มีประเด็นแนวปฏิบัติด้าน Compliance เช่น เป็น Cash Company และมีกรรมการตรวจสอบ ไม่ครบถ้วนตามเกณฑ์ คือ 3 คน
CF : มีประเด็นด้านการกระจายหุ้นไปยังผู้ถือหุ้นรายย่อย-Free Float ไม่เป็นไปตามเกณฑ์ คือ ต้องไม่น้อยกว่า 150 ราย และไม่น้อยกว่า 15% ของทุนชำระแล้ว
เป็นสัญลักษณ์ที่นักลงทุนต้องสังเกตจากหุ้นแต่ละตัวที่จะตัดสินใจลงทุน ยิ่งลงรายละเอียดเสียงเตือนมากเท่าใด ย่อมเป็นเรื่องดีให้กับนักลงทุนทบทวนอีกครั้ง ตั้งสติในการตัดสินใจ
ผู้เขียนขอเสนอเพิ่มเติมอีกว่า นอกเหนือจากการขึ้นเครื่องหมายเตือนเป็นหุ้นรายตัวแล้ว ควรจะมีการ ”มัดรวม” ว่า แต่ละเครื่องหมาย มีหุ้นตัวใดบ้างในหน้าเตือนเดียวกัน อาทิ ปัจจุบันมีหุ้นที่ขึ้น CB กี่ตัว มีชื่ออะไรบ้าง ? น่าจะช่วยได้ มีช่องทางอย่างมีประสิทธิภาพของเสียงเตือนข้างต้น
บทความที่เกี่ยวข้อง