เมื่อวันที่ 08 สิงหาคม 2566 สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทยแถลงข่าวผลคะแนนปีที่ 18 ของโครงการ “การประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น”
จึงมีสถิติภาคสนามที่น่าสนใจนำมาฝากกันเป็นหลายตอนนับจากนี้ไป
ภาพรวมที่เป็นแนวโน้ม และเชื่อว่าหลายคนคาดเดาไปในทิศทางเดียวกัน คือ คิดว่าการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้นในปี 2566 น่าจะเป็นการจัดผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น
แต่ในข้อเท็จจริง พบว่า ลดลง เมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า
จากจำนวนบริษัทจดทะเบียนมากกว่า 800 บริษัท โดยถูกนำมาคำนวณเป็นฐานคะแนน คือ 781 บริษัท (เพราะบางบริษัทปิดรอบบัญชีต่างออกไป)
เมื่อเทียบกับปี 2565 แล้ว พบว่าเป็นการจัดประชุมแบบ Online จำนวน 495 บริษัท หรือร้อยละ 64% ในขณะเดียวกันเป็นการจัดประชุมแบบ Physical จำนวน 277 บริษัท หรือร้อยละ 36 ส่วน แบบ Hybrid มีจัดเพียง 1 บริษัท
สะท้อนให้เห็นว่า หลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง ผู้บริหารบริษัทจดทะเบียนหันมาให้ความสำคัญกับการพบปะผู้ถือหุ้น แบบพบหน้าพบตากันมากขึ้น รวมทั้งยังเปิดโอกาสให้พบกันทั้งสองแบบ ทั้งออนไลน์และพบหน้ามากขึ้นด้วย
ผิดคาดที่หลายฝ่าย อาจคาดว่า การประชุมแบบ Online จะได้รับความนิยมมากขึ้น เพราะมีความสะดวก ประหยัด
อาจเป็นบทพิสูจน์ของมนุษยชาติ ที่ต้องมีการสื่อสาร มีจิตวิญญาณที่ควรสื่อถึงกัน มากกว่าการต้องผ่านอุปกรณ์
แต่แนวโน้มดังกล่าวอาจมีการเปลี่ยนแปลงได้ตามระบบนิเวศของอนาคต
และเช่นเดียวกับการประชุมวิสามัญ ในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา พบว่า มีการเรียกประชุมวิสามัญ จำนวน 117 บริษัท (137 ครั้ง) เป็นการจัดประชุมแบบ Online จำนวน 100 บริษัท หรือร้อยละ 73 ลดลงเมื่อเทียบกับปีก่อนหน้า ซึ่งอยู่ที่ร้อยละ 83
บทความที่เกี่ยวข้อง