เมื่อ “ข่าวใหญ่” ที่สร้างความเสียหายให้กับผู้ถือหุ้นปรากฏ เราจึงต้องถอยหลังหนึ่งก้าว เพื่อทบทวนตัวเราเอง ในฐานะ “ผู้ถือหุ้น” หรือ “เจ้าของกิจการ” ที่เราตัดสินใจนำเงินเข้าไปร่วมลงทุน หรือซื้อหุ้นนั้นๆ
เรามาทบทวน “สิทธิของผู้ถือหุ้น” ซึ่งแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่
1. สิทธิก่อนตัดสินใจลงทุนหมายถึง สิทธิในการรับข้อมูลข่าวสาร เพื่อจะวิเคราะห์และตัดสินใจว่าจะลงทุนในหุ้นของบริษัทหรือไม่ รวมถึงขั้นตอนและวิธีการจองซื้อหุ้นจากหนังสือชี้ชวน หรือไฟลิ่ง (Filing) และแบบแสดงรายการข้อมูลประจำปี (แบบ 56-1 One Report)
“สิทธิ” เป็นของผู้ถือหุ้น เมื่อมีสิทธิ ควรตามด้วย “หน้าที่” ประการสำคัญนอกเหนือจาก
การติดตามข้อมูลข่าวสารของกิจการที่ตัวเองเป็นเจ้าของอยู่แล้ว วันนัดสำคัญประจำปี ที่จะมีโอกาสรับฟังการรายงานผลการดำเนินงานของผู้บริหาร คือ “วันประชุมสามัญผู้ถือหุ้น”
จากข้อมูลการเก็บสถิติภาคสนามของสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ในฐานะผู้ดำเนินโครงการ “การประเมินคุณภาพการจัดประชุมสามัญผู้ถือหุ้น” ของทุกบริษัทจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย พบว่า
มีจำนวนผู้ถือหุ้น เข้าร่วมประชุม ทั้งที่ไปด้วยตัวเอง และมอบฉันทะ มีดังนี้
ปี 2558 : 212,831 ราย หรือร้อยละ 5.13 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2559 : 255,717 ราย หรือร้อยละ 5.97 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2560 : 201,506 ราย หรือร้อยละ 4.29 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2561 : 228,945 ราย หรือร้อยละ 5.12 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2562 : 226,698 ราย หรือร้อยละ 4.46 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2563 * : 134,071 ราย หรือร้อยละ 2.36 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2564 * : 170,552 ราย หรือร้อยละ 2.48 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
ปี 2565 * : 174,803 ราย หรือร้อยละ 2.09 ของจำนวนผู้ถือหุ้น
*มีสถานการณ์โควิด-19
(ปี 2566 - รอการสรุปสถิติ)
สถิติในรอบ 8 ปีที่ผ่านมา พบว่า มีผู้ถือหุ้นเข้าร่วมประชุมสามัญผู้ถือหุ้น มีจำนวนไม่มาก แม้ว่าจะเป็นการประชุมด้วยระบบออนไลน์ที่สะดวก ไม่ต้องใช้เวลาในการเดินทางก็ตาม
“ผู้ถือหุ้นตื่นรู้” จึงเป็นการแสดงทั้ง “สิทธิ และหน้าที่” ในการใส่ใจเงินลงทุนของตัวเอง และอาจเป็นสัญญาณเตือนภัย เรื่อง “ความเสี่ยง” อีกชิ้นของนักลงทุน
ชวนกันไปประชุมสามัญ และวิสามัญผู้ถือหุ้น กันเถอะ…
ข้อมูลเพิ่มเติม : www.sec.or.th
บทความที่เกี่ยวข้อง